
ในคริสตศตวรรษที่ 3 มีผู้นำคริสเตียนคนหนึ่งชื่อ "วาเลนตินัส" เขาเป็นคนที่มีความรักและความเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์มาก โดยทุกๆวันเขาจะแอบนำอาหารและของใช้ที่จำเป็นไปวางไว้ประตูหน้าบ้านของคนยากจนโดยไม่ให้คนเหล่านั้นรู้ ในสมัยนั้นใครที่นับถือศาสนาคริสต์จะมีความผิดร้ายแรง คริสเตียนจึงถูกข่มเหงและทารุณกรรมอย่างหนักเพื่อให้เลิกเป็นคริสเตียน ใครที่ไม่ยอมจะถูกทรมานและฆ่าทิ้ง วาเลนตินัส ก็รวมอยู่ในกลุ่มนี้ด้วย เพราะเขาไม่ยอมจึงถูกจับเข้าคุกในข้อหาเป็นคริสเตียน
ในขณะที่เขาถูกจับขังคุกนั้น เขาพบรักกับสาวตาบอดซึ่งเป็นลูกสาวของผู้คุมในนั้น และด้วยความรักและคำอธิษฐานของเขา พระเจ้าได้ทรงโปรดให้ตาของคนรักของเขาหายเป็นปกติ จากเหตุการณ์นี้เองจึงทำให้ผู้คุมและครอบครัวของเขาหันมาเป็นคริสเตียน เมื่อรู้ถึงจักพรรดิคลอดิอุสที่ 2 ของโรม พระองค์ทรงกริ้วมาก สั่งให้ลงโทษวาเลนตินัสอย่างหนักด้วยการโบยและนำไปประหารชีวิตด้วยการตัดศีรษะ และในคืนสุดท้ายก่อนที่เขาจะถูกนำไปประหารนั้น เขาได้เขียนจดหมายสั้น ๆ เป็นการอำลาส่งไปให้หญิงคนรัก ของเขาและลงท้ายในจดหมายว่า "จากวาเลนไทน์ของเธอ" รุ่งขึ้นของเช้าวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 270 วาเลนตินัสก็ถูกนำไปตัดศีรษะและเอาศพไปฝังไว้ที่เฟลมิเนี่ยนเวย์ ซึ่งภายหลังมีการสร้างโบสถ์หลังใหญ่คร่อมสุสานของเขาไว้ เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงชีวิตและความรักอันยิ่งใหญ่ของเขา คนทั่วไปประทับใจความรักของเขาจึงถือเอาวันที่14 กุมภาพันธ์ของทุกปี เป็น "วันวาเลนไทน์" ภาษาอังกฤษเรียกว่า Valentine's Day หรือวันแห่งความรัก ซึ่งต่อมาได้นิยมแพร่หลายไปทั่วยุโรปและอเมริกาและเข้ามาในทวีปเอเชียด้วย
ความรักของพระเจ้าเป็นอย่างไร
- พระเจ้าสำแดงความรักโดยไม่หวังการตอบแทน ( ลูกา 14 :13 -14 , ลูกา 6 :32-36 )
- พระองค์มอบความรักให้แก่เราก่อน ( 1 ยอห์น 4 :10 ,19)
- พระเจ้าทรงรัก-และเห็นความสำคัญของเราเสมอ ( ลูกา15 :4 )
- ความรักของพระเจ้ายอมสละด้วยความชื่นชมยินดี ด้วยความสมัครใจ(ฮิบรู 12: 2 )
- ความรักของพระเจ้า ไม่ทำสิ่งที่ขัดกับพระบัญญัติของพระองค์ (1 ยอห์น5 3 )
- ความรักของพระเจ้าประทานสิ่งที่ดีที่สุดให้เสมอ (ยอห์น 3: 16,ลูกา11 : 13 ,1 เธสะโลนิกา 2: 8 )
- ความรักของพระเจ้ามั่นคงไม่เปลียนแปลง
( 2 พงศาวดาร 7:3, สดุดี 103 :9–12, 1เปโตร 4 :8 ,โคโลสี 3: 14 )
- ความรักของพระเจ้า อดทนนาน (สดุดี 103: 8 ,1 โครินโธ 13 : 4 , 2 เปโตร 3 : 9)
- ความรักของพระเจ้ามีความเชื่อในส่วนที่ดีของเขาเสมอ และมีความหวังเสมอ (1โครินธ์ 13: 7)