คำเทศนาประจำสัปดาห์วันอาทิตย์ที่ 16 ตุลาคม 2016
โดย ศิษยาภิบาล อ.สุนทร สุขเสาววิมล
โดย ศิษยาภิบาล อ.สุนทร สุขเสาววิมล
ณ คริสตจักรสายธารพระพร
คำเทศนา 9 คำสอนของพ่อ
1. ความเพียรฮบ.6:12 เพื่อท่านจะไม่เป็นคนเฉื่อยช้า แต่ให้ตามเยี่ยงอย่างแห่งคนเหล่านั้นที่อาศัยความเชื่อและความเพียร จึงได้รับตามพระสัญญาเป็นมรดก
ฮบ.6:15 เช่นนั้นแหละ เมื่ออับราฮัมได้ทนคอยด้วยความเพียรแล้ว ท่านก็ได้รับตามพระสัญญานั้น
ลก.8:15 และซึ่งตกที่ดินดีนั้น ได้แก่คนเหล่านั้นที่ได้ยินพระวจนะด้วยใจซื่อสัตย์และใจที่ดีแล้วก็จดจำไว้ จึงเกิดผลด้วยความเพียร
2คร.6:4 แต่ว่าในการทั้งปวงเราได้กระทำตัวให้เป็นที่ชอบ เหมือนผู้รับใช้ของพระเจ้า โดยความเพียรอดทนเป็นอันมาก ในความทุกข์ ในความขัดสน ในเหตุวิบัติ 5 ในการถูกเฆี่ยน ในการที่ถูกจำคุก ในการวุ่นวาย ในการงานต่าง ๆ ในการอดหลับอดนอน ในการอดอาหาร
6 โดยความบริสุทธิ์ โดยความรู้ โดยความอดกลั้นไว้นาน โดยใจกรุณา โดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ โดยความรักแท้ 7 โดยพระวจนะแห่งความจริง โดยฤทธิ์เดชของพระเจ้า โดยใช้เครื่องอาวุธแห่งความชอบธรรมด้วยมือขวาและมือซ้าย
สภษ.12:27 คนเกียจคร้านจะไม่ปิ้งเหยื่อที่เขาล่ามา แต่ทรัพย์สมบัติของคนขยันขันแข็งก็ล้ำค่า
2.ความพอดี
รม.7:7 ถ้าเช่นนั้นเราจะว่าอย่างไร ว่าพระราชบัญญัติคือบาปหรือ ขอพระเจ้าอย่ายอมให้เป็นเช่นนั้นเลย แต่ว่าถ้ามิใช่เพราะพระราชบัญญัติแล้ว ข้าพเจ้าก็จะไม่รู้จักบาป เพราะว่าถ้าพระราชบัญญัติมิได้ห้ามว่า “อย่าโลภ” ข้าพเจ้าก็จะไม่รู้ว่าอะไรคือความโลภ
ลก.12:15 แล้วพระองค์จึงตรัสแก่เขาทั้งหลายว่า “จงระวังและเว้นเสียจากความโลภ เพราะว่าชีวิตของบุคคลใด ๆ มิได้อยู่ในของบริบูรณ์ซึ่งเขามีอยู่นั้น
3.ความรู้ตน
สภษ.1:4 เพื่อให้ความหยั่งรู้แก่คนเขลา ให้ความรู้และความเฉลียวฉลาดแก่คนหนุ่ม
สภษ.10:5 ทรัพย์สมบัติของคนมั่งมีคือเมืองเข้มแข็งของเขา แต่ความยากจนของคนจนเป็นสิ่งที่ทำลายเขา
สภษ.14:8 ปัญญาของคนหยั่งรู้คือการเข้าใจทางของเขา แต่ความโง่ของคนโง่เป็นที่หลอกลวง
สภษ.14:15 คนเขลาเชื่อถือวาจาทุกอย่าง แต่คนหยั่งรู้มองดูว่าเขากำลังไปทางไหน
สภษ.27:12 คนหยั่งรู้เห็นอันตรายและซ่อนตัวของเขาเสีย แต่คนเขลาเดินเรื่อยไปและรับโทษ
4.คนเราจะต้องรับและจะต้องให้
2คร.8:14 แต่เป็นการให้กันไปให้กันมา ในยามที่พวกท่านมีบริบูรณ์เช่นเวลานี้ ท่านก็ควรจะช่วยคนเหล่านั้นที่ขัดสน และในยามที่เขามีบริบูรณ์ เขาก็จะได้ช่วยพวกท่านเมื่อขัดสน เพื่อเป็นการให้กันไปให้กันมา
5.อ่อนโยนแต่ไม่อ่อน
2คร.10:1 บัดนี้ข้าพเจ้า เปาโล ขอวิงวอนต่อท่านเป็นส่วนตัว โดยเห็นแก่ความอ่อนสุภาพและพระทัยกรุณาของพระคริสต์ ข้าพเจ้าผู้ซึ่งท่านว่า เป็นคนสุภาพถ่อมตนเมื่ออยู่กับท่านทั้งหลาย แต่เมื่ออยู่ต่างหากก็เป็นคนใจกล้าต่อท่านทั้งหลาย
2คร.10:2 คือข้าพเจ้าขอร้องท่านว่า เมื่อข้าพเจ้ามาอยู่กับท่านอย่าให้ข้าพเจ้าต้องแสดงความกล้าหาญด้วยความแน่ใจ อย่างที่ข้าพเจ้าคิดสำแดงต่อบางคนที่นึกเห็นว่าเรายังดำเนินตามเนื้อหนังนั้น
6.พูดจริงทำจริง
อพยพ18:21 ยิ่งกว่านั้น ท่านจงเลือกคนที่มีความสามารถจากพวกประชากร คือคนที่เกรงกลัวพระเจ้า ไว้ใจได้และเกลียดสินบน และแต่งตั้งคนอย่างนี้ไว้เหนือประชากร เป็นผู้ปกครองคนพันคนบ้าง และเป็นผู้ปกครองคนร้อยคนบ้าง เป็นผู้ปกครองคนห้าสิบคนบ้าง และเป็นผู้ปกครองคนสิบคนบ้าง
7.หนังสือเป็นออมสิน
สภษ.1:22 คนเขลาเอ๋ย เจ้าจะรักความเขลาไปนานสักเท่าใด คนมักเยาะเย้ยจะปีติยินดีในการเยาะเย้ยนานเท่าใด และคนโง่จะเกลียดความรู้นานเท่าใด
สภษ.2:3 เออ ถ้าเจ้าร้องหาความรอบรู้ และเปล่งเสียงของเจ้าหาความเข้าใจ 4 ถ้าเจ้าแสวงหาปัญญาดุจหาเงิน และเสาะหาปัญญาอย่างหาขุมทรัพย์ที่ซ่อนไว้ 5 นั่นแหละ เจ้าจะเข้าใจความยำเกรงพระเยโฮวาห์ และพบความรู้ของพระเจ้า 6 เพราะพระเยโฮวาห์ทรงประทานปัญญา ความรู้และความเข้าใจมาจากพระโอษฐ์ของพระองค์ 7 พระองค์ทรงสะสมสติปัญญาไว้ให้คนชอบธรรม พระองค์ทรงเป็นดั้งให้แก่ผู้ที่ดำเนินในความเที่ยงธรรม 8 พระองค์ทรงรักษาระวังวิถีของความยุติธรรม และทรงสงวนทางของวิสุทธิชนของพระองค์ไว้ 9 แล้วเจ้าจะเข้าใจความชอบธรรมและความยุติธรรม และความเที่ยงตรง คือวิถีที่ดีทุกสาย 10 เมื่อปัญญาจะเข้ามาในใจของเจ้า และความรู้จะเป็นที่ร่มรื่นแก่จิตใจของเจ้า 11 ความเฉลียวฉลาดจะคอยเฝ้าเจ้า และความเข้าใจจะระแวดระวังเจ้าไว้
8.ความซื่อสัตย์
สภษ.3:3 อย่าให้ความเมตตาและความจริงทอดทิ้งเจ้า จงผูกมันไว้ที่คอของเจ้า จงเขียนมันไว้ที่แผ่นจารึกแห่งหัวใจของเจ้า
สภษ.3:4 ดังนั้น เจ้าจะพบความโปรดปรานและความเข้าใจอันดีในสายพระเนตรพระเจ้าและในสายตามนุษย์
9.การเอาชนะใจตน
มธ.16:24 ขณะนั้นพระเยซูจึงตรัสกับเหล่าสาวกของพระองค์ว่า ถ้าผู้ใดใคร่ตามเรามา ให้ผู้นั้นเอาชนะตัวเอง และรับกางเขนของตนแบกและตามเรามา
สภษ.16:32 บุคคลผู้โกรธช้าก็ดีกว่าคนมีกำลังมาก และบุคคลผู้ปกครองจิตใจของตนเองก็ดีกว่าผู้ที่ตีเมืองได้
๒.ความพอดี การสร้างตัว สร้างฐานะนั้นจะต้องถือหลัก ค่อยเป็นค่อยไป ไม่ทำเกินฐานะและกำลัง
๓.ความรู้ตน การรู้ตัวอยู่เสมอจะทำให้เป็นคนที่มีระเบียบและคนที่มีระเบียบดีแล้วจะสามารถเล่าเรียนและทำการงานต่างๆได้
๔.คนเราจะต้องรับและจะต้องให้ คนเราจะเอาแต่ได้ไม่ได้ คนเราจะต้องรับและจะต้องให้
๕.อ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอ มีความอ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอพร้อมจะเสียสละประโยชน์ส่วนตัวเพื่อส่วนรวม
๖.พูดจริงทำจริง ผู้หนักแน่นในสัจจะ พูดอย่างไร ทำอย่างนั้นจึงได้รับความสำเร็จ
๗.หนังสือเป็นออมสิน หนังสือเป็นสิ่งสำคัญคล้ายๆธนาคารความรู้และเป็นออมสิน
๘.ความซื่อสัตย์ ความซื่อสัตย์สุจริตเป็นพื้นฐานของความดีทุกอย่าง
๙.การเอาชนะใจตน ต้องกล้าและบากบั่นที่จะกระทำสิ่งเราทราบว่าเป็นความดี เป็นความถูกต้อง
รม.7:7 ถ้าเช่นนั้นเราจะว่าอย่างไร ว่าพระราชบัญญัติคือบาปหรือ ขอพระเจ้าอย่ายอมให้เป็นเช่นนั้นเลย แต่ว่าถ้ามิใช่เพราะพระราชบัญญัติแล้ว ข้าพเจ้าก็จะไม่รู้จักบาป เพราะว่าถ้าพระราชบัญญัติมิได้ห้ามว่า “อย่าโลภ” ข้าพเจ้าก็จะไม่รู้ว่าอะไรคือความโลภ
ลก.12:15 แล้วพระองค์จึงตรัสแก่เขาทั้งหลายว่า “จงระวังและเว้นเสียจากความโลภ เพราะว่าชีวิตของบุคคลใด ๆ มิได้อยู่ในของบริบูรณ์ซึ่งเขามีอยู่นั้น
3.ความรู้ตน
สภษ.1:4 เพื่อให้ความหยั่งรู้แก่คนเขลา ให้ความรู้และความเฉลียวฉลาดแก่คนหนุ่ม
สภษ.10:5 ทรัพย์สมบัติของคนมั่งมีคือเมืองเข้มแข็งของเขา แต่ความยากจนของคนจนเป็นสิ่งที่ทำลายเขา
สภษ.14:8 ปัญญาของคนหยั่งรู้คือการเข้าใจทางของเขา แต่ความโง่ของคนโง่เป็นที่หลอกลวง
สภษ.14:15 คนเขลาเชื่อถือวาจาทุกอย่าง แต่คนหยั่งรู้มองดูว่าเขากำลังไปทางไหน
สภษ.27:12 คนหยั่งรู้เห็นอันตรายและซ่อนตัวของเขาเสีย แต่คนเขลาเดินเรื่อยไปและรับโทษ
4.คนเราจะต้องรับและจะต้องให้
2คร.8:14 แต่เป็นการให้กันไปให้กันมา ในยามที่พวกท่านมีบริบูรณ์เช่นเวลานี้ ท่านก็ควรจะช่วยคนเหล่านั้นที่ขัดสน และในยามที่เขามีบริบูรณ์ เขาก็จะได้ช่วยพวกท่านเมื่อขัดสน เพื่อเป็นการให้กันไปให้กันมา
5.อ่อนโยนแต่ไม่อ่อน
2คร.10:1 บัดนี้ข้าพเจ้า เปาโล ขอวิงวอนต่อท่านเป็นส่วนตัว โดยเห็นแก่ความอ่อนสุภาพและพระทัยกรุณาของพระคริสต์ ข้าพเจ้าผู้ซึ่งท่านว่า เป็นคนสุภาพถ่อมตนเมื่ออยู่กับท่านทั้งหลาย แต่เมื่ออยู่ต่างหากก็เป็นคนใจกล้าต่อท่านทั้งหลาย
2คร.10:2 คือข้าพเจ้าขอร้องท่านว่า เมื่อข้าพเจ้ามาอยู่กับท่านอย่าให้ข้าพเจ้าต้องแสดงความกล้าหาญด้วยความแน่ใจ อย่างที่ข้าพเจ้าคิดสำแดงต่อบางคนที่นึกเห็นว่าเรายังดำเนินตามเนื้อหนังนั้น
6.พูดจริงทำจริง
อพยพ18:21 ยิ่งกว่านั้น ท่านจงเลือกคนที่มีความสามารถจากพวกประชากร คือคนที่เกรงกลัวพระเจ้า ไว้ใจได้และเกลียดสินบน และแต่งตั้งคนอย่างนี้ไว้เหนือประชากร เป็นผู้ปกครองคนพันคนบ้าง และเป็นผู้ปกครองคนร้อยคนบ้าง เป็นผู้ปกครองคนห้าสิบคนบ้าง และเป็นผู้ปกครองคนสิบคนบ้าง
7.หนังสือเป็นออมสิน
สภษ.1:22 คนเขลาเอ๋ย เจ้าจะรักความเขลาไปนานสักเท่าใด คนมักเยาะเย้ยจะปีติยินดีในการเยาะเย้ยนานเท่าใด และคนโง่จะเกลียดความรู้นานเท่าใด
สภษ.2:3 เออ ถ้าเจ้าร้องหาความรอบรู้ และเปล่งเสียงของเจ้าหาความเข้าใจ 4 ถ้าเจ้าแสวงหาปัญญาดุจหาเงิน และเสาะหาปัญญาอย่างหาขุมทรัพย์ที่ซ่อนไว้ 5 นั่นแหละ เจ้าจะเข้าใจความยำเกรงพระเยโฮวาห์ และพบความรู้ของพระเจ้า 6 เพราะพระเยโฮวาห์ทรงประทานปัญญา ความรู้และความเข้าใจมาจากพระโอษฐ์ของพระองค์ 7 พระองค์ทรงสะสมสติปัญญาไว้ให้คนชอบธรรม พระองค์ทรงเป็นดั้งให้แก่ผู้ที่ดำเนินในความเที่ยงธรรม 8 พระองค์ทรงรักษาระวังวิถีของความยุติธรรม และทรงสงวนทางของวิสุทธิชนของพระองค์ไว้ 9 แล้วเจ้าจะเข้าใจความชอบธรรมและความยุติธรรม และความเที่ยงตรง คือวิถีที่ดีทุกสาย 10 เมื่อปัญญาจะเข้ามาในใจของเจ้า และความรู้จะเป็นที่ร่มรื่นแก่จิตใจของเจ้า 11 ความเฉลียวฉลาดจะคอยเฝ้าเจ้า และความเข้าใจจะระแวดระวังเจ้าไว้
8.ความซื่อสัตย์
สภษ.3:3 อย่าให้ความเมตตาและความจริงทอดทิ้งเจ้า จงผูกมันไว้ที่คอของเจ้า จงเขียนมันไว้ที่แผ่นจารึกแห่งหัวใจของเจ้า
สภษ.3:4 ดังนั้น เจ้าจะพบความโปรดปรานและความเข้าใจอันดีในสายพระเนตรพระเจ้าและในสายตามนุษย์
9.การเอาชนะใจตน
มธ.16:24 ขณะนั้นพระเยซูจึงตรัสกับเหล่าสาวกของพระองค์ว่า ถ้าผู้ใดใคร่ตามเรามา ให้ผู้นั้นเอาชนะตัวเอง และรับกางเขนของตนแบกและตามเรามา
สภษ.16:32 บุคคลผู้โกรธช้าก็ดีกว่าคนมีกำลังมาก และบุคคลผู้ปกครองจิตใจของตนเองก็ดีกว่าผู้ที่ตีเมืองได้
๙ คำที่พ่อสอน
พระบรมราโชวาทใน
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
๑.ความเพียร การสร้างสรรตนเองต้องใช้เวลา ต้องใช้ความเพียร ต้องใช้ความอดทน เสียสละและไม่ย่อท้อ๒.ความพอดี การสร้างตัว สร้างฐานะนั้นจะต้องถือหลัก ค่อยเป็นค่อยไป ไม่ทำเกินฐานะและกำลัง
๓.ความรู้ตน การรู้ตัวอยู่เสมอจะทำให้เป็นคนที่มีระเบียบและคนที่มีระเบียบดีแล้วจะสามารถเล่าเรียนและทำการงานต่างๆได้
๔.คนเราจะต้องรับและจะต้องให้ คนเราจะเอาแต่ได้ไม่ได้ คนเราจะต้องรับและจะต้องให้
๕.อ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอ มีความอ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอพร้อมจะเสียสละประโยชน์ส่วนตัวเพื่อส่วนรวม
๖.พูดจริงทำจริง ผู้หนักแน่นในสัจจะ พูดอย่างไร ทำอย่างนั้นจึงได้รับความสำเร็จ
๗.หนังสือเป็นออมสิน หนังสือเป็นสิ่งสำคัญคล้ายๆธนาคารความรู้และเป็นออมสิน
๘.ความซื่อสัตย์ ความซื่อสัตย์สุจริตเป็นพื้นฐานของความดีทุกอย่าง
๙.การเอาชนะใจตน ต้องกล้าและบากบั่นที่จะกระทำสิ่งเราทราบว่าเป็นความดี เป็นความถูกต้อง