คำเทศนาประจำสัปดาห์วันอาทิตย์ที่ 18 กันยายน 2016
โดย ศิษยาภิบาล อ.สุนทร สุขเสาววิมล
โดย ศิษยาภิบาล อ.สุนทร สุขเสาววิมล
ณ คริสตจักรสายธารพระพร
เรื่อง บางสิ่งที่ต้องลืมและบางสิ่งต้องจดจำ
บางสิ่งที่ต้องลืม
ฟป.3:12 มิใช่ว่าข้าพเจ้าได้แล้ว หรือสำเร็จแล้ว แต่ข้าพเจ้ากำลังบากบั่นมุ่งไป เพื่อข้าพเจ้าจะได้ฉวยเอาตามอย่างที่พระเยซูคริสต์ได้ทรงฉวยข้าพเจ้าไว้เป็นของพระองค์แล้ว 13พี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าไม่ถือว่าข้าพเจ้าได้ฉวยไว้ได้แล้ว แต่ข้าพเจ้าทำอย่างหนึ่ง คือลืมสิ่งที่ผ่านพ้นมาแล้วเสีย และโน้มตัวออกไปหาสิ่งที่อยู่ข้างหน้า 14ข้าพเจ้ากำลังบากบั่นมุ่งไปสู่หลักชัย เพื่อจะได้รับรางวัลซึ่งพระเจ้าได้ทรงเรียกจากเบื้องบนให้เราไปรับในพระเยซูคริสต์ 15เหตุฉะนั้นให้เราซึ่งเป็นผู้ใหญ่แล้วมีใจคิดอย่างนั้น และถ้าท่านคิดอย่างอื่น พระเจ้าก็จะทรงโปรดสำแดงสิ่งนี้ให้แก่ท่านด้วย 16แต่เราได้แค่ไหนแล้ว ก็ให้เราดำเนินตรงตามนั้นต่อไป คือให้เราคิดเห็นอย่างเดียวกัน
ปฐก.50:19และโยเซฟได้พูดกับพวกเขาว่า “อย่ากลัวเลย ข้าพเจ้าเป็นผู้แทนพระเจ้าหรือ 20แต่สำหรับพวกพี่ พวกพี่คิดร้ายต่อข้าพเจ้า แต่พระเจ้าทรงดำริให้เกิดผลดีอย่างที่บังเกิดขึ้นแล้วในวันนี้ คือเพื่อช่วยชีวิตคนเป็นอันมาก 21ฉะนั้นบัดนี้พวกพี่อย่ากลัวเลย ข้าพเจ้าจะบำรุงเลี้ยงพวกพี่ทั้งบุตรเล็ก ๆ ทั้งหลายของพวกพี่ด้วย” และท่านปลอบโยนพวกพี่น้องและพูดอย่างกรุณาต่อพวกเขา
โยบ11:16 เพราะท่านจะลืมความทุกข์ยากของท่าน ท่านจะจดจำได้เหมือนน้ำที่ได้ไหลผ่านพ้นไป 17แล้วชีวิตของท่านจะสุกใสยิ่งกว่าเวลาเที่ยงวัน ท่านจะส่องแสงเหมือนเวลาเช้า 18และท่านจะรู้สึกมั่นคง เพราะมีความหวัง เออ ท่านจะตรวจตราดู และนอนพักอย่างปลอดภัย
ฮบ.8:12 เพราะเราจะกรุณาต่อการอธรรมของเขา และจะไม่จดจำบาปและความชั่วช้าของเขาอีกต่อไป
อสย.43:18 “อย่าจดจำสิ่งล่วงแล้วนั้น อย่าพิเคราะห์สิ่งเก่าก่อน
19 ดูเถิด เราจะกระทำสิ่งใหม่ บัดนี้จะงอกขึ้นมาแล้ว เจ้าจะไม่เห็นหรือ เราจะทำทางในถิ่นทุรกันดารและแม่น้ำในที่แห้งแล้ง
บางสิ่งต้องจดจำ
สดด.7:11 พระเจ้าทรงพิพากษาคนชอบธรรม และพระเจ้าทรงพระพิโรธต่อคนชั่วทุกวัน
ลก.8:15 และซึ่งตกที่ดินดีนั้น ได้แก่คนเหล่านั้นที่ได้ยินพระวจนะด้วยใจซื่อสัตย์และใจที่ดีแล้วก็จดจำไว้ จึงเกิดผลด้วยความเพียร
ฉธบ.11:16 จงเอาใจใส่ตัวของท่านทั้งหลายให้ดี เพื่อจิตใจของท่านทั้งหลายจะไม่ถูกหลอกลวง แล้วพวกท่านจึงหันเหไปและปรนนิบัติพระอื่น ๆ และนมัสการพระเหล่านั้น 17และหลังจากนั้นพระเยโฮวาห์ทรงพระพิโรธต่อท่านทั้งหลายยิ่งนัก แล้วพระองค์ทรงปิดฟ้าสวรรค์เพื่อไม่ให้ฝนตก และแผ่นดินนั้นก็ไม่งอกพืชผลของมัน และเกรงว่าท่านทั้งหลายจะพินาศไปอย่างรวดเร็วจากแผ่นดินที่ดี ซึ่งพระเยโฮวาห์ทรงประทานแก่พวกท่านนั้น 18เหตุฉะนั้น ท่านทั้งหลายจงจดจำบรรดาถ้อยคำของข้าพเจ้าไว้ในจิตใจของท่านทั้งหลาย และจงเอาถ้อยคำเหล่านี้พันไว้ที่มือของพวกท่านเป็นหมายสำคัญ เพื่อถ้อยคำเหล่านี้จงเป็นเหมือนดั่งเครื่องหมายอยู่ระหว่างนัยน์ตาของท่านทั้งหลาย 19และท่านทั้งหลายจงสอนถ้อยคำเหล่านี้แก่ลูก ๆ ของพวกท่าน จงพูดถึงถ้อยคำเหล่านี้เมื่อท่านนั่งอยู่ในบ้านของท่าน และเมื่อท่านกำลังเดินอยู่ตามทาง เมื่อท่านนอนลงและเมื่อท่านลุกขึ้น20และท่านจงเขียนถ้อยคำเหล่านี้ไว้ที่วงกบประตูบ้านของท่าน และที่ประตูรั้วของท่าน 21เพื่อวันเวลาของท่านทั้งหลายและวันเวลาของลูก ๆ ของพวกท่านจะได้เพิ่มทวีคูณในแผ่นดิน ซึ่งพระเยโฮวาห์ทรงปฏิญาณไว้กับบรรพบุรุษของท่านทั้งหลายว่าจะทรงประทานแก่พวกเขา ตราบเท่าบรรดาวันที่ฟ้าสวรรค์อยู่เหนือแผ่นดินโลก 22เพราะว่าถ้าท่านทั้งหลายขยันหมั่นเพียรที่จะรักษาบทบัญญัติทั้งหมดนี้ซึ่งข้าพเจ้าได้บัญชาพวกท่านให้กระทำตาม คือให้รักพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทั้งหลาย ให้ดำเนินในพระมรรคาทั้งสิ้นของพระองค์ และให้ติดสนิทอยู่กับพระองค์แล้ว 23ดังนั้น พระเยโฮวาห์จะทรงขับไล่บรรดาประชาชาติเหล่านี้ให้ออกไปพ้นหน้าท่านทั้งหลาย และพวกท่านจะยึดครองแผ่นดินของประชาชาติที่ใหญ่กว่าและมีกำลังมากกว่าท่านทั้งหลาย 24ฝ่าเท้าของท่านทั้งหลายจะเหยียบลงที่ใด ที่นั่นจะเป็นของพวกท่าน อาณาเขตของท่านทั้งหลายจะเริ่มจากถิ่นทุรกันดารและเลบานอน จากแม่น้ำคือแม่น้ำยูเฟรติส ไปจนถึงทะเลฝั่งตะวันตก 25จะไม่มีผู้ใดสามารถยืนหยัดต่อหน้าท่านทั้งหลายได้ เพราะพระเยโฮวาห์พระเจ้าของพวกท่านจะทรงกำหนดให้แผ่นดินที่ท่านทั้งหลายจะเหยียบย่ำไปทั้งสิ้นนั้น หวาดกลัวและครั่นคร้ามพวกท่าน ตามที่พระองค์ทรงตรัสไว้กับท่านทั้งหลาย
ยชว.1:8 จงอย่าให้หนังสือแห่งพระราชบัญญัตินี้ห่างเหินไปจากปากของเจ้า แต่เจ้าจงไตร่ตรองตามนั้นทั้งกลางวันและกลางคืน เพื่อเจ้าจะได้ระวังที่จะกระทำตามข้อความที่เขียนไว้นั้นทุกประการ ดังนั้นแล้วเจ้าจะกระทำให้ทางของเจ้ามีความเจริญรุ่งเรือง และในเวลานั้นเจ้าจะสำเร็จผลเป็นอย่างดี
ยชว.4:3 และเจ้าจงบัญชาพวกเขาว่า ‘ท่านทั้งหลายจงไปเอาหินสิบสองก้อนจากท่ามกลางแม่น้ำจอร์แดน จากสถานที่ซึ่งเท้าของพวกปุโรหิตยืนมั่นอยู่นั้น และท่านทั้งหลายจงขนหินเหล่านั้นมาพร้อมกับพวกท่าน และวางหินเหล่านั้นไว้ในสถานที่ที่พักอาศัย ซึ่งท่านทั้งหลายจะพักอาศัยในคืนวันนี้’ 4ดังนั้น โยชูวาก็เลือกชายสิบสองคน ซึ่งท่านแต่งตั้งจากชนชาติอิสราเอลเผ่าละคน5และโยชูวาพูดกับเขาทั้งหลายว่า “จงผ่านไปข้างหน้าหีบแห่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของพวกท่านลงไปท่ามกลางแม่น้ำจอร์แดน และท่านทั้งหลายจงแบกหินมาคนละก้อนบนบ่าของตน ตามจำนวนเผ่าของชนชาติอิสราเอล 6เพื่อว่าสิ่งนี้จะเป็นหมายสำคัญในท่ามกลางท่านทั้งหลาย ในเมื่อลูกหลานของพวกท่านถามบิดาของเขาทั้งหลายในเวลาต่อไปว่า ‘สำหรับท่านทั้งหลายหินเหล่านี้มีความหมายว่าอย่างไร’