คำเทศนา 18/12/2016



คำเทศนาประจำสัปดาห์ วันอาทิตย์ที่ 18 ธันวาคม 2016 
โดย  อ.สิริรัตน์  สุขเสาววิมล

ณ คริสตจักรสายธารพระพร 
เมื่อพระเจ้าได้ยกเอาภาระของเราออกไป(คริสต์มาส)

การมาประสูติขององค์พระเยซูนั้นทำให้เรามั่นใจว่าแผนการของพระองค์นั้นมาตรงตามเวลาที่พระองค์ทรงกำหนดไว้ไม่เปลี่ยนแปลง นั่นคือพระองค์ทรงต้องการการปลดปล่อยคนของพระองค์ออกจากพันธนาการของความบาปแลทำให้เขากลับคืนสู่ความสัมพันธ์ที่ถูกต้องกับพระองค์

ลูกา 1:5 ในรัชกาลเฮโรด กษัตริย์ของยูเดีย มีปุโรหิตคนหนึ่งชื่อเศคาริยาห์ อยู่ในเวรอาบียาห์ ภรรยาของเศคาริยาห์ชื่อเอลีซาเบธ อยู่ในตระกูลอาโรน 6 เขาทั้งสองเป็นคนชอบธรรมจำเพาะพระพักตร์พระเจ้า และดำเนินตามพระบัญญัติและกฎทั้งปวงขององค์พระผู้เป็นเจ้าไม่มีที่ติเลย 7 แต่เขาไม่มีบุตร เพราะว่านางเอลีซาเบธเป็นหมัน และเขาทั้งสองก็ชราแล้ว


ลูกา 1:8 ต่อมาขณะที่เศคาริยาห์ทำหน้าที่ปุโรหิตเข้าเฝ้าพระเจ้า เมื่อท่านอยู่เวรประจำการของท่าน 9 ท่านได้ฉลากตามธรรมเนียมของปุโรหิต ต้องเข้าไปในพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้าเพื่อเผาเครื่องหอมบูชา10 ส่วนบรรดาประชาชนก็อธิษฐานอยู่ภายนอกในเวลาเผาเครื่องหอมนั้น 11 ทูตสวรรค์องค์หนึ่งขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาปรากฏแก่เศคาริยาห์ ยืนอยู่ที่ข้างขวาแท่นเผาเครื่องหอมบูชา


ตัวอย่างของวันแห่งการที่ภาระหนักได้ถูกยกออกไปที่ถูกกล่าวถึงในพระคัมภีร์ เช่นคนตาบอดชื่อบารทิเมอัสอยู่ทีนอกเมืองเยรีโค 
(มาระโก 10:46-52) ศักเคียสคนเก็บภาษี(ลูกา 19:1-10)

ท่านมีภาระหนักในใจหรือในชีวิตของท่านอะไรบ้าง ท่านมีสิ่งใดที่รู้สึกว่าพ่ายแพ้ ท่านมีความต้องการอะไร พระเจ้าจะตอบสนองความต้องการของท่านวันนี้ พระองค์มาตรงเวลาเสมอ พระองค์ต้องการยกภาระหนักของท่านเหมือนอย่างที่พระองค์ทำให้คนมากมายในพระคัมภีร์ สิ่งเดียวที่ท่านต้องทำคือท่านต้องมอบภาระของท่านให้แก่พระองค์

1.เราวางใจพระเจ้าและไม่ต้องกังวลสิ่งใด
- สุภาษิต 3:5 จงวางใจในพระเยโฮวาห์ด้วยสุดใจของเจ้า และอย่าพึ่งพาความเข้าใจของตนเอง 6 จงยอมรับรู้พระองค์ในทุกทางของเจ้า และพระองค์จะทรงกระทำให้วิถีของเจ้าราบรื่น

2.พระเจ้ารู้ว่าเรามีกำลังรับได้แค่ไหน
-1โครินธ์ 10:13ไม่มีการทดลองใด ๆ เกิดขึ้นกับท่าน นอกเหนือจากการทดลองซึ่งเคยเกิดกับมนุษย์ทั้งหลาย แต่พระเจ้าทรงสัตย์ซื่อ พระองค์จะไม่ทรงให้ท่านต้องถูกทดลองเกินกว่าที่ท่านจะทนได้ แต่เมื่อท่านถูกทดลองนั้น พระองค์จะทรงโปรดให้ท่านมีทางที่จะหลีกเลี่ยงได้ด้วย เพื่อท่านจะมีกำลังทนได้


3.มอบไว้กับพระองค์
-ยากอบ 4:2 ท่านทั้งหลายอยากได้ และไม่ได้ ท่านก็ฆ่ากัน ท่านโลภและไม่ได้ ท่านก็ทะเลาะและทำสงครามกัน ถึงอย่างนั้นท่านก็ไม่มีเพราะท่านไม่ได้ขอ 3 ท่านขอและไม่ได้รับ เพราะท่านขอผิด หวังได้ไปเพื่อสนองราคะตัณหาของท่าน
-มัทธิว 11:28 บรรดาผู้ทำงานเหน็ดเหนื่อยและแบกภาระหนัก จงมาหาเรา และเราจะให้ท่านทั้งหลายหายเหนื่อยเป็นสุข


4.มีความเชื่อ
-ฟีลิปปี 4:6 อย่าทุกข์ร้อนในสิ่งใด ๆ เลย แต่จงทูลเรื่องความปรารถนาของท่านทุกอย่างต่อพระเจ้า ด้วยการอธิษฐาน การวิงวอน กับการขอบพระคุณ 7 แล้วสันติสุขแห่งพระเจ้า ซึ่งเกินความเข้าใจทุกอย่าง จะคุ้มครองจิตใจและความคิดของท่านไว้ในพระเยซูคริสต์
-1เธสะโลนิกา5:24 พระองค์ผู้ทรงเรียกท่านนั้นสัตย์ซื่อ และพระองค์จะทรงทำให้สำเร็จ
-สดุดี 37:3 จงวางใจในพระเยโฮวาห์ และกระทำความดี ท่านจึงจะอาศัยอยู่ในแผ่นดินและจะได้รับการเลี้ยงดูอย่างแท้จริง 4 จงปีติยินดีในพระเยโฮวาห์และพระองค์จะประทานตามใจปรารถนาของท่าน
5 จงมอบทางของท่านไว้กับพระเยโฮวาห์ วางใจในพระองค์ และพระองค์จะทรงกระทำให้สำเร็จ


คำเทศนา 11/12/2016



คำเทศนาประจำสัปดาห์วันอาทิตย์ที่ 11 ธันวาคม 2016 
โดย ศิษยาภิบาล  อ.สุนทร  สุขเสาววิมล
ณ คริสตจักรสายธารพระพร

ก้าวต่อไป

1.ปล่อยวางภาระ ปล่อยหัวใจ(ที่คิดกังวล)
มัทธิว 11:28  บรรดาผู้ทำงานเหน็ดเหนื่อยและแบกภาระหนัก จงมาหาเรา และเราจะให้ท่านทั้งหลายหายเหนื่อยเป็นสุข 29 จงเอาแอกของเราแบกไว้ แล้วเรียนจากเรา เพราะว่าเรามีใจอ่อนสุภาพและถ่อมลง และท่านทั้งหลายจะพบที่สงบสุขในใจของตน  30 ด้วยว่าแอกของเราก็แบกง่าย และภาระของเราก็เบา”
สดุดี 55:22 จงมอบภาระของท่านไว้กับพระเยโฮวาห์ และพระองค์จะทรงค้ำจุนท่าน พระองค์จะไม่ทรงยอมให้คนชอบธรรมคลอนแคลนเลย

ลูกา 12:26เหตุฉะนั้น ถ้าสิ่งเล็กน้อยที่สุดยังทำไม่ได้ ท่านยังจะกระวนกระวายถึงสิ่งอื่นทำไมอีกเล่า
ลูกา 12:31 แต่ท่านทั้งหลายจงแสวงหาอาณาจักรของพระเจ้า แล้วจะทรงเพิ่มเติมสิ่งทั้งปวงเหล่านี้ให้แก่ท่าน
สดุดี 9:10 บรรดาผู้ที่รู้จักพระนามของพระองค์ก็จะวางใจในพระองค์ ข้าแต่พระเยโฮวาห์ เพราะว่าพระองค์มิได้ทรงทอดทิ้งบรรดาผู้ที่เสาะแสวงหาพระองค์

2.ดำเนินชีวิต ทำทุกสิ่งอย่างเต็มที่ ทำอย่างดีที่สุดเพื่อไม่ต้องกลับมาเสียดายสิ่งที่ผ่านพ้นไป
ปัญญาจารย์ 9:10 มือของเจ้าจับทำการงานอะไร จงกระทำการนั้นด้วยเต็มกำลังของเจ้า เพราะว่าในแดนคนตายที่เจ้าจะไปนั้นไม่มีการงาน หรือแนวความคิด หรือความรู้ หรือสติปัญญา
1ทิโมธี 6:12จงต่อสู้อย่างเต็มกำลังเพื่อความเชื่อ จงยึดชีวิตนิรันดร์ไว้ ซึ่งพระเจ้าทรงเรียกให้ท่านรับในเมื่อท่านได้รับเชื่ออย่างดีต่อหน้าพยานหลายคน
2ทิโมธี 4:5 ฝ่ายท่านจงระวังระไวอยู่ในการทั้งปวง จงอดทนต่อความทุกข์ยากลำบาก จงทำหน้าที่ของผู้ประกาศข่าวประเสริฐ และจงกระทำการรับใช้ของท่านให้สำเร็จ 6 เพราะว่าบัดนี้ข้าพเจ้าพร้อมที่จะเป็นเครื่องบูชาแล้ว และเวลาที่ข้าพเจ้าจะจากไปนั้นก็ใกล้จะถึงแล้ว 7 ข้าพเจ้าได้ต่อสู้อย่างเต็มกำลัง ข้าพเจ้าได้แข่งขันจนถึงที่สุด ข้าพเจ้าได้รักษาความเชื่อไว้แล้ว  8 ตั้งแต่นี้ไป มงกุฎแห่งความชอบธรรมก็เตรียมไว้สำหรับข้าพเจ้าแล้ว ซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้า ผู้พิพากษาอันชอบธรรม จะทรงประทานแก่ข้าพเจ้าในวันนั้น และมิใช่แก่ข้าพเจ้าผู้เดียวเท่านั้น แต่จะทรงประทานแก่คนทั้งปวงที่รักการเสด็จมาของพระองค์
ฟีลิปปี 3:12 มิใช่ว่าข้าพเจ้าได้แล้ว หรือสำเร็จแล้ว แต่ข้าพเจ้ากำลังบากบั่นมุ่งไป เพื่อข้าพเจ้าจะได้ฉวยเอาตามอย่างที่พระเยซูคริสต์ได้ทรงฉวยข้าพเจ้าไว้เป็นของพระองค์แล้ว 13 พี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าไม่ถือว่าข้าพเจ้าได้ฉวยไว้ได้แล้ว แต่ข้าพเจ้าทำอย่างหนึ่ง คือลืมสิ่งที่ผ่านพ้นมาแล้วเสีย และโน้มตัวออกไปหาสิ่งที่อยู่ข้างหน้า

3.ทำอย่างมีเป้าหมาย
ฟีลิปปี 3:14-16 ข้าพเจ้ากำลังบากบั่นมุ่งไปสู่หลักชัย เพื่อจะได้รับรางวัลซึ่งพระเจ้าได้ทรงเรียกจากเบื้องบนให้เราไปรับในพระเยซูคริสต์ 15 เหตุฉะนั้นให้เราซึ่งเป็นผู้ใหญ่แล้วมีใจคิดอย่างนั้น และถ้าท่านคิดอย่างอื่น พระเจ้าก็จะทรงโปรดสำแดงสิ่งนี้ให้แก่ท่านด้วย
16 แต่เราได้แค่ไหนแล้ว ก็ให้เราดำเนินตรงตามนั้นต่อไป คือให้เราคิดเห็นอย่างเดียวกัน
วิวรณ์ 22:12 “ดูเถิด เราจะมาโดยเร็ว และจะนำบำเหน็จของเรามาด้วย เพื่อตอบแทนการกระทำของทุกคน
วิวรณ์ 11:18 เหล่าประชาชาติมีความโกรธแค้น แต่พระพิโรธของพระองค์ก็มาถึงแล้ว ถึงเวลาที่พระองค์จะทรงพิพากษาคนทั้งหลายที่ตายไปแล้ว และถึงเวลาที่พระองค์จะทรงประทานบำเหน็จแก่ผู้รับใช้ของพระองค์ คือพวกผู้พยากรณ์ และวิสุทธิชนทั้งปวง และแก่คนทั้งหลายที่ยำเกรงพระนามของพระองค์ทั้งผู้ใหญ่ผู้น้อย และถึงเวลาแล้วที่พระองค์จะทรงทำลายคนที่ทำลายแผ่นดินโลก”
ฮีบรู 11:6 แต่บัดนี้เขาปรารถนาที่จะอยู่ในเมืองที่ประเสริฐกว่านั้น คือเมืองสวรรค์ เหตุฉะนั้นพระเจ้าจึงมิได้ทรงละอายเมื่อเขาเรียกพระองค์ว่าเป็นพระเจ้าของเขา เพราะพระองค์ได้ทรงจัดเตรียมเมืองหนึ่งไว้สำหรับเขาแล้ว

คำเทศนา 4/12/2016



คำเทศนาประจำสัปดาห์วันอาทิตย์ที่ 4 ธันวาคม 2016 
โดย ศิษยาภิบาล  อ.สุนทร  สุขเสาววิมล
ณ คริสตจักรสายธารพระพร

คำเทศนา วันพ่อ

1.การเป็นพ่อเริ่มจากการเจริญเติบโตมีความรับผิดชอบตัวเองได้แล้ว มีความรักและมีควมสามารถรับผิดชอบครอบครัวคือภรรยาและลูก
ปฐมกาล 2:24 เหตุฉะนั้น ผู้ชายจะจากบิดาของเขาและมารดาของเขา และจะไปผูกพันอยู่กับภรรยาของเขา และเขาทั้งสองจะเป็นเนื้ออันเดียวกัน”

2.ลูกที่นบนอบจะให้เกียรติ เชื่อฟังพ่อ พระเจ้าทรงพอพระทัยให้พระพรตามพระสัญญามีอายุยืนนาน มีแต่เรื่องดีๆในชีวิต
เอเฟซัส 6:1 ฝ่ายบุตรจงนบนอบเชื่อฟังบิดามารดาของตนในองค์พระผู้เป็นเจ้า เพราะกระทำอย่างนั้นเป็นการถูก
โคโลสี 3:20 ฝ่ายบุตรทั้งหลายจงเชื่อฟังบิดามารดาของตนทุกอย่าง เพราะการนี้เป็นที่ชอบพระทัยขององค์พระผู้เป็นเจ้า 21 ฝ่ายบิดาก็อย่ายั่วบุตรของตนให้ขัดเคืองใจ เกรงว่าเขาจะท้อใจ


3.บิดาที่สอนเตือนสติไม่ยั่วให้โกรธก็จะได้ผลคือมีความยินดี
สุภาษิต 10:1 สุภาษิตของซาโลมอน บุตรชายที่ฉลาดกระทำให้บิดายินดี แต่บุตรชายที่โง่เขลาเป็นความโศกเศร้าของมารดาเขา
สุภาษิต 20:20 ถ้าคนหนึ่งคนใดแช่งบิดาหรือมารดาของตน ประทีปของเขาจะดับมืดมิด


4.ชิวิตคู่ไม่มีส่วนเกิน
ปฐมกาล 17:15 และพระเจ้าตรัสแก่อับราฮัมว่า “สำหรับซารายภรรยาของเจ้า เจ้าจะไม่เรียกชื่อนางว่า ซาราย แต่จะเรียกชื่อนางว่า ซาราห์ 16 และเราจะอวยพรแก่นางและให้บุตรชายคนหนึ่งแก่เจ้ากับนางด้วย ใช่ เราจะอวยพรนาง และนางจะเป็นมารดาของชนหลายชาติ กษัตริย์ของชนหลายชาติจะมาจากนาง” 17 ดังนั้น อับราฮัมจึงซบหน้าลงและหัวเราะ และคิดในใจของท่านว่า “ชายผู้มีอายุหนึ่งร้อยปีจะให้กำเนิดบุตรได้หรือ ซาราห์ผู้มีอายุได้เก้าสิบปีแล้วจะคลอดบุตรหรือ” 18 และอับราฮัมทูลพระเจ้าว่า “โอ ขอให้อิชมาเอลมีชีวิตอยู่ต่อพระพักตร์ของพระองค์” 19 และพระเจ้าตรัสว่า “ซาราห์ภรรยาของเจ้าจะคลอดบุตรชายคนหนึ่งแก่เจ้าเป็นแน่ และเจ้าจะเรียกชื่อของเขาว่า อิสอัค และเราจะตั้งพันธสัญญาของเรากับเขาและกับเชื้อสายของเขาที่มาภายหลังเขาให้เป็นพันธสัญญานิรันดร์ 20 และสำหรับอิชมาเอลนั้นเราได้ฟังเจ้าแล้ว ดูเถิด เราได้อวยพรเขาและจะกระทำให้เขามีลูกดกทวีมากขึ้นอุดมบริบูรณ์อย่างยิ่ง เขาจะให้กำเนิดเจ้านายสิบสององค์และเราจะกระทำให้เขาเป็นชนชาติใหญ่ชนชาติหนึ่ง 21 แต่พันธสัญญาของเรา เราจะตั้งไว้กับอิสอัคซึ่งซาราห์จะคลอดให้แก่เจ้าปีหน้าในเวลานี้”

5.พ่อต้องอบรมสั่งสอนสิ่งที่ถูกต้องตั้งแต่ยังเล็กๆ
1ซามูเอล 2:12 บุตรชายทั้งสองของเอลีเป็นลูกของเบลีอัล พวกเขามิได้รู้จักพระเยโฮวาห์
1ซามูเอล 2:16 และถ้าชายคนใดกล่าวแก่เขาว่า “ขอให้เขาทั้งหลายเผาไขมันเสียก่อน และจากนั้นจงเอาไปตามที่จิตใจของท่านปรารถนาเถิด” ดังนั้นคนใช้จะตอบเขาว่า “ไม่ได้ แต่เจ้าต้องให้ข้าพเจ้าเดี๋ยวนี้ และถ้าไม่ให้ ข้าพเจ้าก็จะเอาเนื้อนั้นไปโดยใช้กำลัง”
1ซามูเอล 2:22 ตอนนั้นเอลีชรามากแล้ว และได้ยินถึงเรื่องราวทั้งสิ้นที่บุตรชายทั้งสองของท่านกระทำแก่บรรดาคนอิสราเอล อย่างเช่น เขาทั้งสองเข้าไปนอนกับพวกผู้หญิงที่มาชุมนุมกันที่ประตูพลับพลาแห่งชุมนุมชน 23 และท่านพูดกับเขาทั้งสองว่า “ทำไมพวกเจ้าจึงกระทำเช่นนั้น เพราะเราได้ยินจากประชาชนทั่วไปถึงความชั่วร้ายซึ่งเจ้าทั้งสองได้กระทำ 24 บุตรชายทั้งสองของเราเอ๋ย อย่าทำเช่นนั้น เพราะเรื่องที่เราได้ยินนั้นไม่ดีเลย เจ้าทั้งสองทำให้ประชากรของพระเยโฮวาห์ทำการละเมิด  25 ถ้ามนุษย์คนใดกระทำผิดต่อมนุษย์ด้วยกัน ผู้วินิจฉัยจะวินิจฉัยให้เขา แต่ถ้ามนุษย์กระทำบาปต่อพระเยโฮวาห์ ใครจะทูลขอเพื่อเขาได้เล่า” อย่างไรก็ตามเขาทั้งสองไม่ได้ตั้งใจฟังเสียงบิดาของพวกเขา เพราะว่าเป็นพระประสงค์ของพระเยโฮวาห์ที่จะทรงประหารพวกเขาเสีย

6.ลูกผิดพ่ออภัย
2ซามูเอล 13:38 ฝ่ายอับซาโลมก็หนีไปยังเมืองเกชูร์ และทรงอยู่ที่นั่นสามปี 39 กษัตริย์ดาวิดก็ทรงตรอมพระทัยอาลัยถึงอับซาโลม เพราะการที่ทรงคิดถึงอัมโนนนั้นค่อยคลายลง ด้วยท่านสิ้นชีพแล้ว
สุภาษิต 3:12 เพราะพระเยโฮวาห์ทรงตักเตือนผู้ที่พระองค์ทรงรัก ดังบิดาตักเตือนบุตรชายผู้ที่เขาปีติชื่นชม
สุภาษิต 13:1 บุตรชายที่ฉลาดฟังคำสั่งสอนของบิดาตน แต่คนมักเยาะเย้ยไม่ฟังคำขนาบ
สุภาษิต 23:22 จงฟังบิดาของเจ้าผู้ให้กำเนิดเจ้า และอย่าดูหมิ่นมารดาของเจ้าเมื่อนางแก่
สุภาษิต 28:24 บุคคลที่ขโมยของของบิดาหรือมารดาของตน และกล่าวว่า “อย่างนี้ไม่ละเมิด” เขาก็เป็นเพื่อนของคนทำลาย
มัทธิว 6:26 จงดูนกในอากาศ มันมิได้หว่าน มิได้เกี่ยว มิได้สะสมไว้ในยุ้งฉาง แต่พระบิดาของท่านทั้งหลายผู้ทรงสถิตในสวรรค์ทรงเลี้ยงนกไว้ ท่านทั้งหลายมิประเสริฐกว่านกหรือ


7.พระเจ้านับเราเป็นลูกพระองค์
โรม 8:15 เหตุว่าท่านไม่ได้รับนิสัยอย่างทาสซึ่งทำให้ตกในความกลัวอีก แต่ท่านได้รับพระวิญญาณผู้ทรงให้เป็นบุตรซึ่งให้เราทั้งหลายร้องเรียกพระเจ้าว่า “อับบา” คือพระบิดา 16 พระวิญญาณนั้นเป็นพยานร่วมกับจิตวิญญาณของเราทั้งหลายว่า เราทั้งหลายเป็นบุตรของพระเจ้า 17 และถ้าเราทั้งหลายเป็นบุตรแล้ว เราก็เป็นผู้รับมรดกคือเป็นผู้รับมรดกของพระเจ้า และเป็นผู้รับมรดกร่วมกับพระคริสต์ เมื่อเราทั้งหลายทนทุกข์ทรมานด้วยกันกับพระองค์นั้น ก็เพื่อเราทั้งหลายจะได้สง่าราศีด้วยกันกับพระองค์ด้วย

คำเทศนา 27/11/2016



คำเทศนาประจำสัปดาห์วันอาทิตย์ที่ 27 พฤศจิกายน 2016 
โดย ศิษยาภิบาล  อ.สุนทร  สุขเสาววิมล
ณ คริสตจักรสายธารพระพร

คำอธิษฐานที่มีสิทธิอำนาจและได้รับคำตอบ
เยเรมีย์ 33:1 พระวจนะของพระเยโฮวาห์มายังเยเรมีย์ครั้งที่สอง เมื่อท่านยังถูกกักตัวอยู่ในบริเวณของทหารรักษาพระองค์นั้นว่า
1.ความสัมพันธ์กับพระเจ้า
โคโลสี 2:1-5
เพราะข้าพเจ้าใคร่ให้ท่านรู้ว่า ข้าพเจ้าสู้อุตส่าห์มากเพียงไรเพื่อท่าน เพื่อชาวเมืองเลาดีเซียและเพื่อคนทั้งปวงที่ยังไม่เห็นหน้าของข้าพเจ้าในฝ่ายเนื้อหนัง 2 เพื่อเขาจะได้รับความชูใจ และเข้าติดสนิทกันในความรัก และมั่นใจในความอุดมสมบูรณ์แห่งความเข้าใจ และเข้าในความรู้ความลึกลับของพระเจ้าและของพระบิดาและของพระคริสต์  3 ซึ่งคลังสติปัญญาและความรู้ทุกอย่างทรงปิดซ่อนไว้ในพระองค์ 4 ข้าพเจ้ากล่าวเช่นนี้เพื่อมิให้ผู้ใดล่อลวงท่านด้วยคำชักชวนอันน่าฟัง  5 เพราะถึงแม้ว่าตัวของข้าพเจ้าไม่อยู่กับท่าน แต่ใจของข้าพเจ้ายังอยู่กับท่าน และมีความชื่นชมยินดีที่ได้เห็นท่านอยู่กันอย่างเรียบร้อย และเห็นความเชื่อมั่นคงของท่านในพระคริสต์

2.ความรู้เกี่ยวกับพระเจ้า
สดุดี 76:1 ในยูดาห์เขารู้จักพระเจ้า ในอิสราเอลพระนามของพระองค์ใหญ่ยิ่ง
เยเรมีย์ 31:33
 “แต่นี่จะเป็นพันธสัญญาซึ่งเราจะกระทำกับวงศ์วานอิสราเอล ภายหลังสมัยนั้น” พระเยโฮวาห์ตรัสดังนี้แหละ “เราจะบรรจุราชบัญญัติของเราไว้ภายในเขาทั้งหลาย และเราจะจารึกมันไว้ที่ในดวงใจของเขาทั้งหลาย และเราจะเป็นพระเจ้าของเขา และเขาจะเป็นประชาชนของเรา 34 และทุกคนจะไม่สอนเพื่อนบ้านของตนและพี่น้องของตนแต่ละคนอีกว่า ‘จงรู้จักพระเยโฮวาห์’ เพราะเขาทั้งหลายจะรู้จักเราหมด ตั้งแต่คนเล็กน้อยที่สุดถึงคนใหญ่โตที่สุด” พระเยโฮวาห์ตรัสดังนี้แหละ “เพราะเราจะให้อภัยความชั่วช้าของเขา และจะไม่จดจำบาปของเขาทั้งหลายอีกต่อไป”
3.ใจที่สะอาด ท่าทีในใจที่ถูกต้อง
สดุดี 24:3 
ผู้ใดจะขึ้นไปบนภูเขาของพระเยโฮวาห์ และผู้ใดจะยืนอยู่ในที่บริสุทธิ์ของพระองค์ 4 คือผู้ที่มีมือสะอาดและใจบริสุทธิ์ ผู้ที่มิได้ปลงใจในสิ่งไร้สาระและมิได้ปฏิญาณอย่างหลอกลวง
สดุดี 73:1
แท้จริงพระเจ้าทรงดีต่ออิสราเอล ต่อบุคคลผู้มีใจบริสุทธิ์
4.ความมั่นใจ มีความเชื่อ
ยากอบ 1:2 พี่น้องของข้าพเจ้า เมื่อท่านทั้งหลายตกอยู่ในการทดลองต่าง ๆ ก็จงถือว่าเป็นเรื่องน่ายินดีทั้งสิ้น 3 เพราะท่านทั้งหลายรู้ว่า การทดลองความเชื่อของท่านนั้น ทำให้เกิดความเพียร

คำเทศนา 20/11/2016



คำเทศนาประจำสัปดาห์วันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน 2016 
โดย ศิษยาภิบาล  อ.สุนทร  สุขเสาววิมล
ณ คริสตจักรสายธารพระพร

การแลกเปลี่ยนที่ไม่สมเหตุผล(ต่อ)

5.พระเยซูยอมรับความอับอายถูกปฏิเสธเพื่อแลกเปลี่ยนให้เรามีเกียรติและถูกยอมรับจากพระบิดา
ฮีบรู 12:2 หมายเอาพระเยซูเป็นผู้ริเริ่มความเชื่อ และผู้ทรงทำให้ความเชื่อของเราสำเร็จ เพราะเห็นแก่ความยินดีที่มีอยู่ตรงหน้านั้น พระองค์ได้ทรงทนเอากางเขน ทรงถือว่าความละอายไม่เป็นสิ่งสำคัญอะไร และได้เสด็จประทับเบื้องขวาพระที่นั่งของพระเจ้าแล้ว
มัทธิว 27:35 ครั้นตรึงพระองค์ที่กางเขนแล้ว เขาก็เอาฉลองพระองค์มาจับฉลากแบ่งปันกันเพื่อจะสำเร็จตามพระวจนะโดยผู้พยากรณ์ซึ่งว่า ‘เสื้อผ้าของข้าพระองค์ เขาแบ่งปันกัน ส่วนเสื้อของข้าพระองค์นั้น เขาก็จับฉลากกัน’ 36 แล้วพวกเขาก็นั่งเฝ้าพระองค์อยู่ที่นั่น  37 และได้เอาถ้อยคำข้อหาที่ลงโทษพระองค์ไปติดไว้เหนือพระเศียร ซึ่งอ่านว่า “ผู้นี้คือเยซูกษัตริย์ของชนชาติยิว” 38 คราวนั้นมีโจรสองคนถูกตรึงไว้พร้อมกับพระองค์ ข้างขวาพระหัตถ์คนหนึ่ง ข้างซ้ายอีกคนหนึ่ง
39 ฝ่ายคนทั้งหลายที่เดินผ่านไปมานั้นก็ด่าทอพระองค์ สั่นศีรษะของเขา 40 กล่าวว่า “เจ้าผู้จะทำลายพระวิหารและสร้างขึ้นในสามวันน่ะ จงช่วยตัวเองให้รอด ถ้าเจ้าเป็นบุตรของพระเจ้า จงลงมาจากกางเขนเถิด” 41 พวกปุโรหิตใหญ่กับพวกธรรมาจารย์และพวกผู้ใหญ่ก็เยาะเย้ยพระองค์เช่นกันว่า 42 “เขาช่วยคนอื่นให้รอดได้ แต่ช่วยตัวเองให้รอดไม่ได้ ถ้าเขาเป็นกษัตริย์ของชาติอิสราเอล ให้เขาลงมาจากกางเขนเดี๋ยวนี้เถิด และเราจะเชื่อเขา 43 เขาไว้ใจในพระเจ้า ถ้าพระองค์พอพระทัยในเขาก็ให้พระองค์ทรงช่วยเขาให้รอดเดี๋ยวนี้เถิด ด้วยเขาได้กล่าวว่า ‘เราเป็นพระบุตรของพระเจ้า’ 44 ถึงโจรที่ถูกตรึงไว้กับพระองค์ก็ยังกล่าวคำหยาบช้าต่อพระองค์เหมือนกัน
มัทธิว 27:46ครั้นประมาณบ่ายสามโมงพระเยซูทรงร้องเสียงดังว่า “เอลี เอลี ลามาสะบักธานี” แปลว่า “พระเจ้าของข้าพระองค์ พระเจ้าของข้าพระองค์ ไฉนพระองค์ทรงทอดทิ้งข้าพระองค์เสีย”
โรม 8:15 เหตุว่าท่านไม่ได้รับนิสัยอย่างทาสซึ่งทำให้ตกในความกลัวอีก แต่ท่านได้รับพระวิญญาณผู้ทรงให้เป็นบุตรซึ่งให้เราทั้งหลายร้องเรียกพระเจ้าว่า “อับบา” คือพระบิดา 16 พระวิญญาณนั้นเป็นพยานร่วมกับจิตวิญญาณของเราทั้งหลายว่า เราทั้งหลายเป็นบุตรของพระเจ้า
เอเฟซัส 1:6 เพื่อจะให้เป็นที่สรรเสริญสง่าราศีแห่งพระคุณของพระองค์ ซึ่งโดยพระคุณนั้นพระองค์ทรงบันดาลให้เราเป็นที่ชอบพระทัย ในผู้ทรงเป็นที่รักของพระองค์

6.พระเยซูยอมรับคำสาปแช่งเพื่อเราจะได้รับพระพร
กาลาเทีย 3:13 พระคริสต์ทรงไถ่เราให้พ้นความสาปแช่งแห่งพระราชบัญญัติ โดยการที่พระองค์ทรงยอมถูกสาปแช่งเพื่อเรา เพราะมีคำเขียนไว้ว่า ‘ทุกคนที่ต้องถูกแขวนไว้บนต้นไม้ก็ต้องถูกสาปแช่ง’
14 เพื่อพระพรของอับราฮัมจะได้มาถึงคนต่างชาติทั้งหลายเพราะพระเยซูคริสต์ เพื่อเราจะได้รับพระสัญญาแห่งพระวิญญาณโดยความเชื่อ
เฉลยธรรมบัญญัติ 21:22 ถ้าชายคนใดได้กระทำความผิดบาปสมควรมีโทษถึงตาย และเขาถูกประหารชีวิต และท่านแขวนเขาไว้ที่ต้นไม้ 23 จงอย่าให้ศพของเขาค้างอยู่ที่ต้นไม้ตลอดทั้งคืน แต่ท่านจงฝังเขาเสียในวันเดียวกันนั้น (ด้วยว่าผู้ที่ถูกแขวนไว้บนต้นไม้ก็ถูกสาปแช่งจากพระเจ้า) เพื่อแผ่นดินของท่านซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทรงประทานแก่ท่านให้เป็นมรดกนั้นไม่เป็นมลทิน”
คำสาปแช่ง เช่น 1.ความอับอาย ไม่มีใครนับถือ ไม่เกิดผล 2.การเจ็บป่วย โรคทางกรรมพันธ์ด้านร่างงกาย เจ็บป่วยทางจิตใจ 3.ครอบครัวหย่าร้าง ครอบครัวแตกสลาย 4.ความยากจน 5.ความพ่ายแพ้ ล้มเหลวในชีวิต 6.ความทุกข์ ความกดดันในชีวิต การถูกกดขี่ข่มเหง
1ยอห์น 1:9 ถ้าเราสารภาพบาปของเรา พระองค์ทรงสัตย์ซื่อและเที่ยงธรรม ก็จะทรงโปรดยกบาปของเรา และจะทรงชำระเราให้พ้นจากการอธรรมทั้งสิ้น
2ทิโมธี 4:18 องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงโปรดช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจากการร้ายทุกอย่าง และจะทรงคุ้มครองข้าพเจ้าไว้จนถึงอาณาจักรสวรรค์ของพระองค์ สง่าราศีจงมีแด่พระองค์สืบ ๆ ไปเป็นนิตย์ เอเมน
1เธสะโลนิกา 5:23 ขอให้องค์พระเจ้าแห่งสันติสุขทรงตั้งท่านเป็นคนบริสุทธิ์หมดจด และข้าพเจ้าอธิษฐานต่อพระเจ้าให้ทรงรักษาทั้งวิญญาณ จิตใจและร่างกายของท่านไว้ให้ปราศจากการติเตียน จนถึงวันที่พระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราเสด็จมา 24 พระองค์ผู้ทรงเรียกท่านนั้นสัตย์ซื่อ และพระองค์จะทรงทำให้สำเร็จ

คำเทศนา 13/11/2016



คำเทศนาประจำสัปดาห์วันอาทิตย์ที่ 13 พฤศจิกายน 2016 
โดย ศิษยาภิบาล  อ.สุนทร  สุขเสาววิมล
ณ คริสตจักรสายธารพระพร

การแลกเปลี่ยนที่ไม่สมเหตุผล

โฮเชยา 4:6ประชาชนของเราถูกทำลายเพราะขาดความรู้ เพราะเจ้าปฏิเสธไม่รับความรู้ เราก็ปฏิเสธเจ้าไม่ให้รับเป็นปุโรหิตของเรา เพราะเจ้าหลงลืมพระราชบัญญัติแห่งพระเจ้าของเจ้า เราก็จะลืมวงศ์วานของเจ้าเสียด้วย

ฮีบรู 10:11 ฝ่ายปุโรหิตทุกคนก็ยืนปฏิบัติอยู่ทุกวัน ๆ และนำเอาเครื่องบูชาอย่างเดียวกันมาถวายเนือง ๆ เครื่องบูชานั้นจะยกเอาความบาปไปเสียไม่ได้เลย 12 ฝ่ายพระองค์นี้ ครั้นทรงถวายเครื่องบูชาเพราะความบาปเพียงหนเดียวซึ่งใช้ได้เป็นนิตย์ ก็เสด็จประทับเบื้องขวาพระหัตถ์ของพระเจ้า 13 ตั้งแต่นี้ไปพระองค์คอยอยู่จนถึงบรรดาศัตรูของพระองค์จะถูกปราบลงเป็นที่รองพระบาทของพระองค์ 14 เพราะว่าโดยการทรงถวายบูชาหนเดียว พระองค์ได้ทรงกระทำให้คนทั้งหลายที่ถูกชำระแล้วถึงที่สำเร็จเป็นนิตย์ 15 และพระวิญญาณบริสุทธิ์ก็ทรงเป็นพยานให้แก่เราด้วย เพราะว่าพระองค์ได้ตรัสไว้แล้วว่า
16 “นี่คือพันธสัญญาซึ่งเราจะกระทำกับเขาทั้งหลายภายหลังสมัยนั้น” องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัส “เราจะบรรจุราชบัญญัติของเราไว้ในจิตใจของเขาทั้งหลาย และจะจารึกมันไว้ที่ในดวงใจของเขาทั้งหลาย 17 และจะไม่จดจำบาปและความชั่วช้าของเขาอีกต่อไป” 18 ดังนั้นเมื่อมีการลบบาปแล้วก็ไม่มีการถวายเครื่องบูชาไถ่บาปอีกต่อไป
2โครินธ์ 8:9เพราะท่านทั้งหลายรู้จักพระคุณของพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราว่า แม้พระองค์มั่งคั่ง พระองค์ก็ยังทรงยอมเป็นคนยากจน เพราะเห็นแก่ท่านทั้งหลายเพื่อท่านทั้งหลายจะได้เป็นคนมั่งมี เนื่องจากความยากจนของพระองค์


1.พระเยซูถูกลงโทษให้บาดเจ็บป่วยไข้ เพื่อเราจะได้ไม่ต้องถูกลงโทษและรับการรักษาให้หายป่วยและมีสวัสดิภาพที่ดี
อิสยาห์ 53:4 แน่ทีเดียวท่านได้แบกความระทมทุกข์ของเราทั้งหลาย และหอบความเศร้าโศกของเราไป กระนั้นเราทั้งหลายก็ยังถือว่าท่านถูกตี คือพระเจ้าทรงโบยตีและข่มใจ 5 แต่ท่านถูกบาดเจ็บเพราะความละเมิดของเราทั้งหลาย ท่านฟกช้ำเพราะความชั่วช้าของเรา การตีสอนอันทำให้เราทั้งหลายปลอดภัยนั้นตกแก่ท่าน ที่ต้องฟกช้ำนั้นก็ให้เราหายดี

2.เราเป็นคนชอบธรรมโดยพระคุณเพราะความเชื่อไม่ใช่การกระทำ
อิสยาห์ 53:6เราทุกคนได้เจิ่นไปเหมือนแกะ เราทุกคนต่างได้หันไปตามทางของตนเอง และพระเยโฮวาห์ทรงวางลงบนท่านซึ่งความชั่วช้าของเราทุกคน
โรม 5:1เหตุฉะนั้นเมื่อเราเป็นคนชอบธรรมโดยความเชื่อแล้ว เราจึงมีสันติสุขกับพระเจ้าทางพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา 2 โดยทางพระองค์ เราจึงได้เข้าในร่มพระคุณที่เรายืนอยู่โดยความเชื่อ และเราชื่นชมยินดีในความหวังใจว่าจะได้มีส่วนในสง่าราศีของพระเจ้า
3 ยิ่งกว่านั้น เราชื่นชมยินดีในความทุกข์ยากด้วย เพราะเรารู้ว่าความทุกข์ยากนั้นทำให้เกิดความอดทน 4 และความอดทนทำให้เกิดมีประสบการณ์ และประสบการณ์ทำให้เกิดมีความหวังใจ 5 และความหวังใจมิได้ทำให้เกิดความละอาย เพราะเหตุว่าความรักของพระเจ้าได้หลั่งไหลเข้าสู่จิตใจของเรา โดยทางพระวิญญาณบริสุทธิ์ ซึ่งพระองค์ได้ประทานให้แก่เราแล้ว


3.พระเยซูยอมตายเพื่อให้เราได้ชีวิตและเป็นชีวิตที่ครบบริบูรณ์
ยอห์น 10:7 พระเยซูจึงตรัสกับเขาอีกว่า “เราบอกความจริงอันเที่ยงแท้แก่ท่านว่า เราเป็นประตูของแกะทั้งหลาย

4.พระเยซูยอมให้เป้นคนยากจนเพื่อแลกเปลี่ยนให้เรามั่งคั่ง
2โครินธ์ 8:9เพราะท่านทั้งหลายรู้จักพระคุณของพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราว่า แม้พระองค์มั่งคั่ง พระองค์ก็ยังทรงยอมเป็นคนยากจน เพราะเห็นแก่ท่านทั้งหลายเพื่อท่านทั้งหลายจะได้เป็นคนมั่งมี เนื่องจากความยากจนของพระองค์

คำเทศนา 30/10/2016




คำเทศนาประจำสัปดาห์วันอาทิตย์ที่ 30 ตุลาคม 2016 
โดย ศิษยาภิบาล อ.สุนทร สุขเสาววิมล
ณ คริสตจักรสายธารพระพร

พระคริสต์ดีต่อฉัน


สดุดี 23:1 พระเยโฮวาห์ทรงเป็นผู้เลี้ยงดูข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะไม่ขัดสน 2 พระองค์ทรงกระทำให้ข้าพเจ้านอนลงที่ทุ่งหญ้าเขียวสด พระองค์ทรงนำข้าพเจ้าไปริมน้ำแดนสงบ 3 พระองค์ทรงฟื้นจิตวิญญาณของข้าพเจ้า พระองค์ทรงนำข้าพเจ้าไปในทางชอบธรรม เพราะเห็นแก่พระนามของพระองค์ 4 แม้ข้าพระองค์เดินไปตามหุบเขาเงาแห่งความตาย ข้าพระองค์จะไม่กลัวอันตรายใด ๆ เพราะพระองค์ทรงสถิตกับข้าพระองค์ คทาและธารพระกรของพระองค์เล้าโลมข้าพระองค์ 5 พระองค์ทรงเตรียมสำรับให้ข้าพระองค์ต่อหน้าต่อตาศัตรูของข้าพระองค์ พระองค์ทรงเจิมศีรษะข้าพระองค์ด้วยน้ำมัน ขันน้ำของข้าพระองค์ก็ล้นอยู่ 6 แน่ทีเดียวที่ความดีและความเมตตาจะติดตามข้าพเจ้าไปตลอดวันเวลาแห่งชีวิตของข้าพเจ้า และข้าพเจ้าจะอยู่ในพระนิเวศของพระเยโฮวาห์สืบไปเป็นนิตย์

1.พระเจ้าผู้ทรงปลอบโยนจิตใจ ให้กำลังใจอยู่เสมอ
สดุดี 86:17 ขอประทานหมายสำคัญแห่งความโปรดปรานของพระองค์แก่ข้าพระองค์ เพื่อคนที่เกลียดชังข้าพระองค์จะเห็น และจะได้อาย ข้าแต่พระเยโฮวาห์ เพราะพระองค์ได้ทรงช่วยข้าพระองค์และทรงเล้าโลมข้าพระองค์
สดุดี 94:18 เมื่อข้าพเจ้าได้คิดว่า "เท้าของข้าพลาด" ข้าแต่พระยาห์เวห์ ความรักมั่นคงของพระองค์ค้ำจุนข้าพระองค์ไว้ 19 เมื่อความกังวลมีมากในใจข้าพระองค์ การปลอบโยนของพระองค์ก็ทำให้จิตใจข้าพระองค์ปีติยินดี

2.พระเจ้าผู้ทรงปกป้องเราไว้
สดุดี 3:3โอ ข้าแต่พระเยโฮวาห์ พระองค์ทรงเป็นโล่ล้อมรอบตัวข้าพระองค์ พระองค์ทรงเป็นสง่าราศีของข้าพระองค์ และทรงเป็นผู้ชูศีรษะของข้าพระองค์ไว้
สดุดี 5:12 ข้าแต่พระเยโฮวาห์ เพราะพระองค์จะทรงอวยพรแก่คนชอบธรรม พระองค์จะทรงคุ้มครองเขาไว้ด้วยความโปรดปรานประดุจเป็นโล่ป้องกันเขา
สดุดี 41:2  พระเยโฮวาห์จะทรงป้องกันเขาและรักษาเขาให้มีชีวิต ในแผ่นดินเขาจะได้รับพระพร พระองค์จะไม่ทรงมอบเขาไว้กับศัตรูของเขาให้ทำตามใจชอบ เมื่อเขาอยู่บนที่นอนด้วยความอิดโรยพระเยโฮวาห์จะทรงทำให้เขาแข็งแรงขึ้น เมื่อเขาอยู่บนที่นอนแห่งความเจ็บไข้พระองค์จะทรงรักษาเขาให้หายหมด
3.พระเจ้าผู้ทรงรักษาโรคทั้งสิ้น
สดุดี 103:2 โอ จิตใจของข้าเอ๋ย จงถวายสาธุการแด่พระเยโฮวาห์ และอย่าลืมพระราชกิจอันมีพระคุณทั้งสิ้นของพระองค์ ผู้ทรงอภัยความชั่วช้าทั้งสิ้นของท่าน ผู้ทรงรักษาโรคทั้งสิ้นของท่าน
4.พระเจ้าผู้ทรงไถ่เราจากนรกไปสวรรค์
สดุดี 103:4 ผู้ทรงไถ่ชีวิตของท่านมาจากปากแดนผู้ตาย ผู้ทรงสวมความเมตตาและพระกรุณาเป็นมงกุฎให้ท่าน
5.พระเจ้าผู้ทรงประทานของดี สุขภาพที่ดี ดูดีอ่อนกว่าวัย
สดุดี 103:5 ผู้ทรงให้ปากท่านอิ่มด้วยของดี วัยหนุ่มของท่านจึงกลับคืนมาใหม่อย่างวัยนกอินทรี 6พระเยโฮวาห์ทรงประกอบความชอบธรรมและการยุติธรรมให้แก่บรรดาผู้ที่ถูกบีบบังคับ

คำเทศนา 16/10/2016




คำเทศนาประจำสัปดาห์วันอาทิตย์ที่ 16 ตุลาคม 2016 
โดย ศิษยาภิบาล  อ.สุนทร  สุขเสาววิมล
ณ คริสตจักรสายธารพระพร


คำเทศนา 9 คำสอนของพ่อ
1. ความเพียร
ฮบ.6:12 เพื่อท่านจะไม่เป็นคนเฉื่อยช้า แต่ให้ตามเยี่ยงอย่างแห่งคนเหล่านั้นที่อาศัยความเชื่อและความเพียร จึงได้รับตามพระสัญญาเป็นมรดก
ฮบ.6:15 เช่นนั้นแหละ เมื่ออับราฮัมได้ทนคอยด้วยความเพียรแล้ว ท่านก็ได้รับตามพระสัญญานั้น
ลก.8:15 และซึ่งตกที่ดินดีนั้น ได้แก่คนเหล่านั้นที่ได้ยินพระวจนะด้วยใจซื่อสัตย์และใจที่ดีแล้วก็จดจำไว้ จึงเกิดผลด้วยความเพียร
2คร.6:4 แต่ว่าในการทั้งปวงเราได้กระทำตัวให้เป็นที่ชอบ เหมือนผู้รับใช้ของพระเจ้า โดยความเพียรอดทนเป็นอันมาก ในความทุกข์ ในความขัดสน ในเหตุวิบัติ 5 ในการถูกเฆี่ยน ในการที่ถูกจำคุก ในการวุ่นวาย ในการงานต่าง ๆ ในการอดหลับอดนอน ในการอดอาหาร
6 โดยความบริสุทธิ์ โดยความรู้ โดยความอดกลั้นไว้นาน โดยใจกรุณา โดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ โดยความรักแท้ 7 โดยพระวจนะแห่งความจริง โดยฤทธิ์เดชของพระเจ้า โดยใช้เครื่องอาวุธแห่งความชอบธรรมด้วยมือขวาและมือซ้าย
สภษ.12:27 คนเกียจคร้านจะไม่ปิ้งเหยื่อที่เขาล่ามา แต่ทรัพย์สมบัติของคนขยันขันแข็งก็ล้ำค่า

2.ความพอดี
รม.7:7 ถ้าเช่นนั้นเราจะว่าอย่างไร ว่าพระราชบัญญัติคือบาปหรือ ขอพระเจ้าอย่ายอมให้เป็นเช่นนั้นเลย แต่ว่าถ้ามิใช่เพราะพระราชบัญญัติแล้ว ข้าพเจ้าก็จะไม่รู้จักบาป เพราะว่าถ้าพระราชบัญญัติมิได้ห้ามว่า “อย่าโลภ” ข้าพเจ้าก็จะไม่รู้ว่าอะไรคือความโลภ
ลก.12:15 แล้วพระองค์จึงตรัสแก่เขาทั้งหลายว่า “จงระวังและเว้นเสียจากความโลภ เพราะว่าชีวิตของบุคคลใด ๆ มิได้อยู่ในของบริบูรณ์ซึ่งเขามีอยู่นั้น
3.ความรู้ตน
สภษ.1:4 เพื่อให้ความหยั่งรู้แก่คนเขลา ให้ความรู้และความเฉลียวฉลาดแก่คนหนุ่ม
สภษ.10:5 ทรัพย์สมบัติของคนมั่งมีคือเมืองเข้มแข็งของเขา แต่ความยากจนของคนจนเป็นสิ่งที่ทำลายเขา
สภษ.14:8 ปัญญาของคนหยั่งรู้คือการเข้าใจทางของเขา แต่ความโง่ของคนโง่เป็นที่หลอกลวง
สภษ.14:15 คนเขลาเชื่อถือวาจาทุกอย่าง แต่คนหยั่งรู้มองดูว่าเขากำลังไปทางไหน
สภษ.27:12 คนหยั่งรู้เห็นอันตรายและซ่อนตัวของเขาเสีย แต่คนเขลาเดินเรื่อยไปและรับโทษ
4.คนเราจะต้องรับและจะต้องให้
2คร.8:14 แต่เป็นการให้กันไปให้กันมา ในยามที่พวกท่านมีบริบูรณ์เช่นเวลานี้ ท่านก็ควรจะช่วยคนเหล่านั้นที่ขัดสน และในยามที่เขามีบริบูรณ์ เขาก็จะได้ช่วยพวกท่านเมื่อขัดสน เพื่อเป็นการให้กันไปให้กันมา
5.อ่อนโยนแต่ไม่อ่อน
2คร.10:1 บัดนี้ข้าพเจ้า เปาโล ขอวิงวอนต่อท่านเป็นส่วนตัว โดยเห็นแก่ความอ่อนสุภาพและพระทัยกรุณาของพระคริสต์ ข้าพเจ้าผู้ซึ่งท่านว่า เป็นคนสุภาพถ่อมตนเมื่ออยู่กับท่านทั้งหลาย แต่เมื่ออยู่ต่างหากก็เป็นคนใจกล้าต่อท่านทั้งหลาย
2คร.10:2 คือข้าพเจ้าขอร้องท่านว่า เมื่อข้าพเจ้ามาอยู่กับท่านอย่าให้ข้าพเจ้าต้องแสดงความกล้าหาญด้วยความแน่ใจ อย่างที่ข้าพเจ้าคิดสำแดงต่อบางคนที่นึกเห็นว่าเรายังดำเนินตามเนื้อหนังนั้น
6.พูดจริงทำจริง
อพยพ18:21 ยิ่งกว่านั้น ท่านจงเลือกคนที่มีความสามารถจากพวกประชากร คือคนที่เกรงกลัวพระเจ้า ไว้ใจได้และเกลียดสินบน และแต่งตั้งคนอย่างนี้ไว้เหนือประชากร เป็นผู้ปกครองคนพันคนบ้าง และเป็นผู้ปกครองคนร้อยคนบ้าง เป็นผู้ปกครองคนห้าสิบคนบ้าง และเป็นผู้ปกครองคนสิบคนบ้าง
7.หนังสือเป็นออมสิน
สภษ.1:22 คนเขลาเอ๋ย เจ้าจะรักความเขลาไปนานสักเท่าใด คนมักเยาะเย้ยจะปีติยินดีในการเยาะเย้ยนานเท่าใด และคนโง่จะเกลียดความรู้นานเท่าใด
สภษ.2:3 เออ ถ้าเจ้าร้องหาความรอบรู้ และเปล่งเสียงของเจ้าหาความเข้าใจ 4 ถ้าเจ้าแสวงหาปัญญาดุจหาเงิน และเสาะหาปัญญาอย่างหาขุมทรัพย์ที่ซ่อนไว้ 5 นั่นแหละ เจ้าจะเข้าใจความยำเกรงพระเยโฮวาห์ และพบความรู้ของพระเจ้า 6 เพราะพระเยโฮวาห์ทรงประทานปัญญา ความรู้และความเข้าใจมาจากพระโอษฐ์ของพระองค์ 7 พระองค์ทรงสะสมสติปัญญาไว้ให้คนชอบธรรม พระองค์ทรงเป็นดั้งให้แก่ผู้ที่ดำเนินในความเที่ยงธรรม 8 พระองค์ทรงรักษาระวังวิถีของความยุติธรรม และทรงสงวนทางของวิสุทธิชนของพระองค์ไว้ 9 แล้วเจ้าจะเข้าใจความชอบธรรมและความยุติธรรม และความเที่ยงตรง คือวิถีที่ดีทุกสาย 10 เมื่อปัญญาจะเข้ามาในใจของเจ้า และความรู้จะเป็นที่ร่มรื่นแก่จิตใจของเจ้า 11 ความเฉลียวฉลาดจะคอยเฝ้าเจ้า และความเข้าใจจะระแวดระวังเจ้าไว้
8.ความซื่อสัตย์
สภษ.3:3 อย่าให้ความเมตตาและความจริงทอดทิ้งเจ้า จงผูกมันไว้ที่คอของเจ้า จงเขียนมันไว้ที่แผ่นจารึกแห่งหัวใจของเจ้า
สภษ.3:4 ดังนั้น เจ้าจะพบความโปรดปรานและความเข้าใจอันดีในสายพระเนตรพระเจ้าและในสายตามนุษย์
9.การเอาชนะใจตน
มธ.16:24 ขณะนั้นพระเยซูจึงตรัสกับเหล่าสาวกของพระองค์ว่า ถ้าผู้ใดใคร่ตามเรามา ให้ผู้นั้นเอาชนะตัวเอง และรับกางเขนของตนแบกและตามเรามา
สภษ.16:32 บุคคลผู้โกรธช้าก็ดีกว่าคนมีกำลังมาก และบุคคลผู้ปกครองจิตใจของตนเองก็ดีกว่าผู้ที่ตีเมืองได้




๙ คำที่พ่อสอน
พระบรมราโชวาทใน
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
๑.ความเพียร การสร้างสรรตนเองต้องใช้เวลา ต้องใช้ความเพียร ต้องใช้ความอดทน เสียสละและไม่ย่อท้อ
๒.ความพอดี การสร้างตัว สร้างฐานะนั้นจะต้องถือหลัก ค่อยเป็นค่อยไป ไม่ทำเกินฐานะและกำลัง
๓.ความรู้ตน การรู้ตัวอยู่เสมอจะทำให้เป็นคนที่มีระเบียบและคนที่มีระเบียบดีแล้วจะสามารถเล่าเรียนและทำการงานต่างๆได้
๔.คนเราจะต้องรับและจะต้องให้ คนเราจะเอาแต่ได้ไม่ได้ คนเราจะต้องรับและจะต้องให้
๕.อ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอ มีความอ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอพร้อมจะเสียสละประโยชน์ส่วนตัวเพื่อส่วนรวม
๖.พูดจริงทำจริง ผู้หนักแน่นในสัจจะ พูดอย่างไร ทำอย่างนั้นจึงได้รับความสำเร็จ
๗.หนังสือเป็นออมสิน หนังสือเป็นสิ่งสำคัญคล้ายๆธนาคารความรู้และเป็นออมสิน
๘.ความซื่อสัตย์ ความซื่อสัตย์สุจริตเป็นพื้นฐานของความดีทุกอย่าง
๙.การเอาชนะใจตน ต้องกล้าและบากบั่นที่จะกระทำสิ่งเราทราบว่าเป็นความดี เป็นความถูกต้อง

คำเทศนา 2/10/2016



คำเทศนาประจำสัปดาห์วันอาทิตย์ที่ 2 ตุลาคม 2016 
โดย ศิษยาภิบาล  อ.สุนทร  สุขเสาววิมล
ณ คริสตจักรสายธารพระพร

เรื่อง  คำสรรเสริญมาจากใจฉันเพราะพระองค์ทรงแสนดี

พระเจ้าทรงเป็น
6.เยโฮวาห์ ชาโลม (Jehovah Shalom) The Lord our peace พระเจ้าคือสันติสุขของเรา
วนฉ.6:24 ดังนั้น กิเดโอนก็สร้างแท่นบูชาถวายแด่พระเยโฮวาห์ที่นั่น และเรียกแท่นบูชานั้นว่า เยโฮวาห์ชาโลม จนถึงทุกวันนี้แท่นบูชานั้นยังอยู่ที่โอฟราห์ของคนอาบีเยเซอร์
ยน.14:27เรามอบสันติสุขไว้ให้แก่ท่านแล้ว สันติสุขของเราที่ให้แก่ท่านนั้น เราให้ท่านไม่เหมือนโลกให้ อย่าให้ใจของท่านวิตกและอย่ากลัวเลย


7.เยโฮวาห์ ชิเคนู (Jehovah Tsidkeenu)  The Lord our Righteousness  พระเจ้าทรงเป็นความชอบธรรมของเรา
ยรม.23:6 ในสมัยของท่าน ยูดาห์จะรอดได้ และอิสราเอลจะอาศัยอยู่อย่างปลอดภัย และนี่จะเป็นนามซึ่งเราจะเรียกท่าน คือ พระเยโฮวาห์เป็นความชอบธรรมของเรา”
ยรม.33:15ในวันเหล่านั้นและในเวลานั้น เราจะให้อังกูรชอบธรรมเกิดมาเพื่อดาวิด และท่านจะให้ความยุติธรรมและความชอบธรรมในแผ่นดินนั้น
2คร.5:21 เพราะว่าพระเจ้าได้ทรงกระทำพระองค์ผู้ทรงไม่มีบาป ให้เป็นความบาปเพราะเห็นแก่เรา เพื่อเราจะได้เป็นคนชอบธรรมของพระเจ้าทางพระองค์
รม.6:18เมื่อท่านพ้นจากบาปแล้ว ท่านก็ได้กลายเป็นทาสของความชอบธรรม


8.เยโฮวาห์ เม็คกะดิชเคม (Jehovah Mekaddishkem)  
The Lord our Sanctifier    พระเจ้าผู้ทรงชำระให้บริสุทธิ์
ผู้ทรงเป็นเครื่องบูชาไถ่บาปแทนเรา
อพยพ31:13“เจ้าจงพูดกับชนชาติอิสราเอลด้วยว่า แท้จริง เจ้าทั้งหลายจะต้องรักษาวันสะบาโตของเราไว้ เพราะนี่เป็นหมายสำคัญระหว่างเรากับเจ้าทั้งหลายตลอดชั่วอายุของพวกเจ้า เพื่อเจ้าทั้งหลายจะได้รู้ว่าเราคือพระเยโฮวาห์ ผู้ได้ชำระพวกเจ้าให้บริสุทธิ์
ลนต.20:8และพวกเจ้าจงรักษากฎเกณฑ์ทั้งหลายของเราและกระทำตาม เราคือพระเยโฮวาห์ผู้ชำระเจ้าทั้งหลายให้บริสุทธิ์
ลนต.21:8ฉะนั้นเจ้าจงชำระเขาให้บริสุทธิ์ เพราะเขาถวายมังสาหารแห่งพระเจ้าของเจ้า เขาจะต้องบริสุทธิ์สำหรับเจ้า เพราะเราคือพระเยโฮวาห์ผู้ชำระเจ้าทั้งหลายให้บริสุทธิ์ เป็นผู้บริสุทธิ์
ลนต.22:9เพราะฉะนั้น เขาทั้งหลายต้องรักษากฎของเรา เกรงว่าพวกเขาจะต้องรับโทษบาปเพราะสิ่งนั้น และจะต้องตายเพราะเหตุนั้น ถ้าหากเขาทั้งหลายกระทำให้สิ่งนั้นเป็นมลทิน เราคือพระเยโฮวาห์ผู้ชำระพวกเขาให้บริสุทธิ์

9.เยโฮวาห์ ซาโบท (Jehovah Saboath)  The Lord of hosts พระเจ้าจอมโยธาเป็นพระเจ้าของเรา
1ซมอ.1:13ฝ่ายฮันนาห์นั้นนางพูดแต่ในใจ ริมฝีปากของนางมุบมิบเท่านั้น ไม่ได้ยินเสียงของนาง เพราะเหตุนี้เอลีจึงสำคัญว่านางมึนเมา

10.เยโฮวาห์ ชามาห์ (Jehovah Shammah) The Lord is present พระเจ้าทรงสถิตอยู่กับเราในปัจจุบัน 
อสค.48:35วัดรอบนครนั้นได้หนึ่งหมื่นแปดพันศอก ตั้งแต่นี้ไปนครนี้จะมีชื่อว่า พระเยโฮวาห์สถิตที่นั่น
มธ.1:23ดูเถิด หญิงพรหมจารีคนหนึ่งจะตั้งครรภ์ และจะคลอดบุตรชายคนหนึ่ง และเขาจะเรียกนามของท่านว่า อิมมานูเอล ซึ่งแปลว่า พระเจ้าทรงอยู่กับเรา
สดด.46:1พระเจ้าทรงเป็นที่ลี้ภัยและเป็นกำลังของข้าพระองค์ทั้งหลาย เป็นความช่วยเหลือที่พร้อมอยู่ในยามยากลำบาก

11.เยโฮวาห์ เอลย่อน(Jehovah Elyon)  The Lord most high พระเจ้าผู้สูงสุด
สดด.7:17 ข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระเยโฮวาห์เนื่องด้วยความชอบธรรมของพระองค์ และข้าพเจ้าจะร้องเพลงสรรเสริญพระนามของพระเยโฮวาห์ผู้สูงสุด

12.เยโฮวาห์ โรฮี (Jehovah Rohi ) The Lord my shepherd พระเจ้าทรงเป็นผู้เลี้ยงของเรา
สดด.23:1พระเยโฮวาห์ทรงเป็นผู้เลี้ยงดูข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะไม่ขัดสน
1ปต.5:4และเมื่อพระผู้เลี้ยงใหญ่จะเสด็จมาปรากฏ ท่านทั้งหลายจะรับมงกุฎแห่งสง่าราศีที่ร่วงโรยไม่ได้เลย
1ปต.2:25เพราะว่าท่านทั้งหลายเป็นเหมือนแกะที่พลัดฝูงไป แต่บัดนี้ได้กลับมาหาพระผู้เลี้ยง และผู้ดูแลแห่งจิตวิญญาณของท่านทั้งหลายแล้ว


คำเทศนา 25/9/2016



คำเทศนาประจำสัปดาห์วันอาทิตย์ที่ 25 กันยายน 2016 
โดย ศิษยาภิบาล  อ.สุนทร  สุขเสาววิมล
ณ คริสตจักรสายธารพระพร 

เรื่อง  คำสรรเสริญมาจากใจฉันเพราะพระองค์ทรงแสนดี
สดด.27:13 ข้าพเจ้าคงหมดสติไปนอกจากข้าพเจ้าเชื่อว่า ข้าพเจ้าจะเห็นความดีของพระเยโฮวาห์ที่ในแผ่นดินของคนเป็น  14จงรอคอยพระเยโฮวาห์ จงเข้มแข็ง และพระองค์จะทำให้จิตใจของท่านกล้าหาญ เออ จงรอคอยพระเยโฮวาห์เถิด
สดด.34:8 โอ ขอเชิญชิมดูแล้วจะเห็นว่าพระเยโฮวาห์ประเสริฐ คนที่วางใจในพระองค์ก็เป็นสุข  9โอ ท่านวิสุทธิชนทั้งหลายของพระองค์ จงยำเกรงพระเยโฮวาห์ เพราะผู้ที่ยำเกรงพระองค์ไม่ขาดแคลน  
10เหล่าสิงโตหนุ่มยังขาดแคลนและหิวโหย แต่บรรดาผู้ที่แสวงหาพระเยโฮวาห์จะไม่ขาดของดีใด ๆ  11บุตรทั้งหลายเอ๋ย มาเถิด มาฟังเรา เราจะสอนเจ้าถึงความเกรงกลัวพระเยโฮวาห์  12มนุษย์คนใดผู้ปรารถนาชีวิตและรักวันเวลาทั้งหลาย เพื่อเขาจะได้เห็นของดี  13จงระวังลิ้นของเจ้าจากความชั่ว และอย่าให้ริมฝีปากพูดเป็นอุบายล่อลวง
14จงหนีความชั่ว และกระทำความดี แสวงหาความสงบสุขและดำเนินตามนั้น
ยก.1:17
ของประทานอันดีทุกอย่าง และของประทานอันเลิศทุกอย่างย่อมมาจากเบื้องบน และส่งลงมาจากพระบิดาแห่งบรรดาดวงสว่าง ในพระบิดาไม่มีการแปรปรวน หรือไม่มีเงาอันเนื่องจากการเปลี่ยนแปลง
พระเจ้าทรงเป็น
1.เยโฮวาห์เอโลฮิม(Jehovah Elohim)  The eternal creator
พระเจ้าทรงสร้างทุกสิ่งทุกอย่างและนิรันดร์กาล  ปฐก.2:4เรื่องราวของฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลกเมื่อทรงเนรมิตสร้างนั้นเป็นดังนี้ ในวันที่พระเยโฮวาห์พระเจ้าได้ทรงสร้างแผ่นดินโลกและฟ้าสวรรค์ 5พร้อมทั้งบรรดาพืชตามท้องทุ่งก่อนมันเป็นอยู่บนแผ่นดินโลก และบรรดาผักตามท้องทุ่งก่อนมันงอกขึ้น ด้วยว่าพระเยโฮวาห์พระเจ้ายังไม่ทำให้ฝนตกบนแผ่นดินโลก และยังไม่มีมนุษย์ที่จะทำไร่ไถนา
6แต่มีหมอกขึ้นมาจากแผ่นดินโลก และทำให้พื้นแผ่นดินเปียกชุ่มทั่วไป
2. อโดนาย เยโฮวาห์(Adonai Jehovah) The Lord our Sovereign,Master Jehovha  พระเจ้าผู้ครอบครองเป็นพระเจ้าสูงสุด  ปฐก.15:2 และอับรามทูลว่า “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้า ข้าพระองค์ยังไม่มีบุตร และคนต้นเรือนแห่งครัวเรือนของข้าพระองค์คือเอลีเอเซอร์ชาวเมืองดามัสกัสคนนี้แหละ พระองค์จะทรงโปรดประทานอะไรแก่ข้าพระองค์เล่า”
ปฐก.15:8 และท่านทูลว่า “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้า ข้าพระองค์จะรู้ได้อย่างไรว่าข้าพระองค์จะได้ดินแดนนี้เป็นมรดก”
3.เยโฮวาห์ยิเรย์(Jehovah Jireh) The Lord will seeor provide 
พระเจ้าผู้ทรงจัดเตรียมจัดหาทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับเรา 
ปฐก.22:8 และอับราฮัมพูดว่า “ลูกของพ่อเอ๋ย พระเจ้าพระองค์เองจะทรงจัดเตรียมลูกแกะไว้ให้เป็นเครื่องเผาบูชา” ดังนั้นพ่อลูกทั้งสองก็เดินต่อไปด้วยกัน
ฟป.4:19 แต่พระเจ้าของข้าพเจ้าจะจัดเตรียมสำหรับความต้องการทุกอย่างของท่านทั้งหลายจากทรัพย์อันรุ่งเรืองของพระองค์โดยพระเยซูคริสต์
4.เยโฮวาห์ นีสสี(Jehovah Nissi) The Lord our banner
พระเจ้าผู้ทรงเป็นธงของเรา 
อพยพ17:14 และพระเยโฮวาห์ตรัสกับโมเสสว่า “จงเขียนเรื่องนี้ลงไว้ในหนังสือเพื่อเป็นที่ระลึก ทั้งเล่าให้โยชูวาฟัง ด้วยว่าเราจะลบล้างความทรงจำถึงคนอามาเลขจากภายใต้ฟ้าสวรรค์นี้” 15 และโมเสสได้สร้างแท่นบูชา และเรียกชื่อแท่นบูชานั้นว่า เยโฮวาห์นิสสี
5.เยโฮวาห์ โรฟีก้า (Jehovah Ropheka) The Lord our healer พระเจ้าเป็นแพทย์ผู้ประเสริฐของเรา
อพยพ15:26 และกล่าวว่า “ถ้าท่านทั้งหลายจะตั้งใจฟังพระสุรเสียงของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านอย่างขะมักเขม้น และจะกระทำสิ่งที่ถูกต้องในสายพระเนตรของพระองค์ และจะเงี่ยหูฟังพระบัญญัติทั้งหลายของพระองค์ และรักษากฎเกณฑ์ของพระองค์ทุกประการแล้ว” “โรคต่าง ๆ ซึ่งเราบันดาลให้เกิดแก่คนอียิปต์นั้น เราจะไม่ให้บังเกิดแก่พวกเจ้าเลย เพราะเราคือพระเยโฮวาห์เป็นผู้รักษาเจ้า”
สดด.103:3 ผู้ทรงอภัยความชั่วช้าทั้งสิ้นของท่าน ผู้ทรงรักษาโรคทั้งสิ้นของท่าน
มธ.8:17 ทั้งนี้เพื่อจะให้สำเร็จตามพระวจนะโดยอิสยาห์ผู้พยากรณ์ที่ว่า ‘ท่านได้แบกความเจ็บไข้ของเราทั้งหลาย และหอบโรคของเราไป’
อสย.53:4แน่ทีเดียวท่านได้แบกความระทมทุกข์ของเราทั้งหลาย และหอบความเศร้าโศกของเราไป กระนั้นเราทั้งหลายก็ยังถือว่าท่านถูกตี คือพระเจ้าทรงโบยตีและข่มใจ  5แต่ท่านถูกบาดเจ็บเพราะความละเมิดของเราทั้งหลาย ท่านฟกช้ำเพราะความชั่วช้าของเรา การตีสอนอันทำให้เราทั้งหลายปลอดภัยนั้นตกแก่ท่าน ที่ต้องฟกช้ำนั้นก็ให้เราหายดี
1ปต.2:24 พระองค์เองได้ทรงรับแบกบาปของเราไว้ในพระกายของพระองค์ที่ต้นไม้นั้น เพื่อว่าเราทั้งหลายซึ่งตายจากบาปแล้ว จะได้ดำเนินชีวิตตามความชอบธรรม ด้วยรอยเฆี่ยนของพระองค์ ท่านทั้งหลายจึงได้รับการรักษาให้หาย

คำเทศนา 18/9/2016



คำเทศนาประจำสัปดาห์วันอาทิตย์ที่ 18 กันยายน 2016 
โดย ศิษยาภิบาล  อ.สุนทร  สุขเสาววิมล
ณ คริสตจักรสายธารพระพร

เรื่อง บางสิ่งที่ต้องลืมและบางสิ่งต้องจดจำ

บางสิ่งที่ต้องลืม
ฟป.3:12 มิใช่ว่าข้าพเจ้าได้แล้ว หรือสำเร็จแล้ว แต่ข้าพเจ้ากำลังบากบั่นมุ่งไป เพื่อข้าพเจ้าจะได้ฉวยเอาตามอย่างที่พระเยซูคริสต์ได้ทรงฉวยข้าพเจ้าไว้เป็นของพระองค์แล้ว 13พี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าไม่ถือว่าข้าพเจ้าได้ฉวยไว้ได้แล้ว แต่ข้าพเจ้าทำอย่างหนึ่ง คือลืมสิ่งที่ผ่านพ้นมาแล้วเสีย และโน้มตัวออกไปหาสิ่งที่อยู่ข้างหน้า  14ข้าพเจ้ากำลังบากบั่นมุ่งไปสู่หลักชัย เพื่อจะได้รับรางวัลซึ่งพระเจ้าได้ทรงเรียกจากเบื้องบนให้เราไปรับในพระเยซูคริสต์  15เหตุฉะนั้นให้เราซึ่งเป็นผู้ใหญ่แล้วมีใจคิดอย่างนั้น และถ้าท่านคิดอย่างอื่น พระเจ้าก็จะทรงโปรดสำแดงสิ่งนี้ให้แก่ท่านด้วย  16แต่เราได้แค่ไหนแล้ว ก็ให้เราดำเนินตรงตามนั้นต่อไป คือให้เราคิดเห็นอย่างเดียวกัน
ปฐก.50:19และโยเซฟได้พูดกับพวกเขาว่า “อย่ากลัวเลย ข้าพเจ้าเป็นผู้แทนพระเจ้าหรือ  20แต่สำหรับพวกพี่ พวกพี่คิดร้ายต่อข้าพเจ้า แต่พระเจ้าทรงดำริให้เกิดผลดีอย่างที่บังเกิดขึ้นแล้วในวันนี้ คือเพื่อช่วยชีวิตคนเป็นอันมาก  21ฉะนั้นบัดนี้พวกพี่อย่ากลัวเลย ข้าพเจ้าจะบำรุงเลี้ยงพวกพี่ทั้งบุตรเล็ก ๆ ทั้งหลายของพวกพี่ด้วย” และท่านปลอบโยนพวกพี่น้องและพูดอย่างกรุณาต่อพวกเขา
โยบ11:16 เพราะท่านจะลืมความทุกข์ยากของท่าน ท่านจะจดจำได้เหมือนน้ำที่ได้ไหลผ่านพ้นไป 17แล้วชีวิตของท่านจะสุกใสยิ่งกว่าเวลาเที่ยงวัน ท่านจะส่องแสงเหมือนเวลาเช้า 18และท่านจะรู้สึกมั่นคง เพราะมีความหวัง เออ ท่านจะตรวจตราดู และนอนพักอย่างปลอดภัย
ฮบ.8:12 เพราะเราจะกรุณาต่อการอธรรมของเขา และจะไม่จดจำบาปและความชั่วช้าของเขาอีกต่อไป
อสย.43:18 “อย่าจดจำสิ่งล่วงแล้วนั้น อย่าพิเคราะห์สิ่งเก่าก่อน  
19 ดูเถิด เราจะกระทำสิ่งใหม่ บัดนี้จะงอกขึ้นมาแล้ว เจ้าจะไม่เห็นหรือ เราจะทำทางในถิ่นทุรกันดารและแม่น้ำในที่แห้งแล้ง

บางสิ่งต้องจดจำ
สดด.7:11 พระเจ้าทรงพิพากษาคนชอบธรรม และพระเจ้าทรงพระพิโรธต่อคนชั่วทุกวัน
ลก.8:15 และซึ่งตกที่ดินดีนั้น ได้แก่คนเหล่านั้นที่ได้ยินพระวจนะด้วยใจซื่อสัตย์และใจที่ดีแล้วก็จดจำไว้ จึงเกิดผลด้วยความเพียร
ฉธบ.11:16 จงเอาใจใส่ตัวของท่านทั้งหลายให้ดี เพื่อจิตใจของท่านทั้งหลายจะไม่ถูกหลอกลวง แล้วพวกท่านจึงหันเหไปและปรนนิบัติพระอื่น ๆ และนมัสการพระเหล่านั้น 17และหลังจากนั้นพระเยโฮวาห์ทรงพระพิโรธต่อท่านทั้งหลายยิ่งนัก แล้วพระองค์ทรงปิดฟ้าสวรรค์เพื่อไม่ให้ฝนตก และแผ่นดินนั้นก็ไม่งอกพืชผลของมัน และเกรงว่าท่านทั้งหลายจะพินาศไปอย่างรวดเร็วจากแผ่นดินที่ดี ซึ่งพระเยโฮวาห์ทรงประทานแก่พวกท่านนั้น  18เหตุฉะนั้น ท่านทั้งหลายจงจดจำบรรดาถ้อยคำของข้าพเจ้าไว้ในจิตใจของท่านทั้งหลาย และจงเอาถ้อยคำเหล่านี้พันไว้ที่มือของพวกท่านเป็นหมายสำคัญ เพื่อถ้อยคำเหล่านี้จงเป็นเหมือนดั่งเครื่องหมายอยู่ระหว่างนัยน์ตาของท่านทั้งหลาย  19และท่านทั้งหลายจงสอนถ้อยคำเหล่านี้แก่ลูก ๆ ของพวกท่าน จงพูดถึงถ้อยคำเหล่านี้เมื่อท่านนั่งอยู่ในบ้านของท่าน และเมื่อท่านกำลังเดินอยู่ตามทาง เมื่อท่านนอนลงและเมื่อท่านลุกขึ้น
20และท่านจงเขียนถ้อยคำเหล่านี้ไว้ที่วงกบประตูบ้านของท่าน และที่ประตูรั้วของท่าน  21เพื่อวันเวลาของท่านทั้งหลายและวันเวลาของลูก ๆ ของพวกท่านจะได้เพิ่มทวีคูณในแผ่นดิน ซึ่งพระเยโฮวาห์ทรงปฏิญาณไว้กับบรรพบุรุษของท่านทั้งหลายว่าจะทรงประทานแก่พวกเขา ตราบเท่าบรรดาวันที่ฟ้าสวรรค์อยู่เหนือแผ่นดินโลก  22เพราะว่าถ้าท่านทั้งหลายขยันหมั่นเพียรที่จะรักษาบทบัญญัติทั้งหมดนี้ซึ่งข้าพเจ้าได้บัญชาพวกท่านให้กระทำตาม คือให้รักพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทั้งหลาย ให้ดำเนินในพระมรรคาทั้งสิ้นของพระองค์ และให้ติดสนิทอยู่กับพระองค์แล้ว  23ดังนั้น พระเยโฮวาห์จะทรงขับไล่บรรดาประชาชาติเหล่านี้ให้ออกไปพ้นหน้าท่านทั้งหลาย และพวกท่านจะยึดครองแผ่นดินของประชาชาติที่ใหญ่กว่าและมีกำลังมากกว่าท่านทั้งหลาย  24ฝ่าเท้าของท่านทั้งหลายจะเหยียบลงที่ใด ที่นั่นจะเป็นของพวกท่าน อาณาเขตของท่านทั้งหลายจะเริ่มจากถิ่นทุรกันดารและเลบานอน จากแม่น้ำคือแม่น้ำยูเฟรติส ไปจนถึงทะเลฝั่งตะวันตก  25จะไม่มีผู้ใดสามารถยืนหยัดต่อหน้าท่านทั้งหลายได้ เพราะพระเยโฮวาห์พระเจ้าของพวกท่านจะทรงกำหนดให้แผ่นดินที่ท่านทั้งหลายจะเหยียบย่ำไปทั้งสิ้นนั้น หวาดกลัวและครั่นคร้ามพวกท่าน ตามที่พระองค์ทรงตรัสไว้กับท่านทั้งหลาย

ยชว.1:8 จงอย่าให้หนังสือแห่งพระราชบัญญัตินี้ห่างเหินไปจากปากของเจ้า แต่เจ้าจงไตร่ตรองตามนั้นทั้งกลางวันและกลางคืน เพื่อเจ้าจะได้ระวังที่จะกระทำตามข้อความที่เขียนไว้นั้นทุกประการ ดังนั้นแล้วเจ้าจะกระทำให้ทางของเจ้ามีความเจริญรุ่งเรือง และในเวลานั้นเจ้าจะสำเร็จผลเป็นอย่างดี
ยชว.4:3 และเจ้าจงบัญชาพวกเขาว่า ‘ท่านทั้งหลายจงไปเอาหินสิบสองก้อนจากท่ามกลางแม่น้ำจอร์แดน จากสถานที่ซึ่งเท้าของพวกปุโรหิตยืนมั่นอยู่นั้น และท่านทั้งหลายจงขนหินเหล่านั้นมาพร้อมกับพวกท่าน และวางหินเหล่านั้นไว้ในสถานที่ที่พักอาศัย ซึ่งท่านทั้งหลายจะพักอาศัยในคืนวันนี้’ 4ดังนั้น โยชูวาก็เลือกชายสิบสองคน ซึ่งท่านแต่งตั้งจากชนชาติอิสราเอลเผ่าละคน
5และโยชูวาพูดกับเขาทั้งหลายว่า “จงผ่านไปข้างหน้าหีบแห่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของพวกท่านลงไปท่ามกลางแม่น้ำจอร์แดน และท่านทั้งหลายจงแบกหินมาคนละก้อนบนบ่าของตน ตามจำนวนเผ่าของชนชาติอิสราเอล  6เพื่อว่าสิ่งนี้จะเป็นหมายสำคัญในท่ามกลางท่านทั้งหลาย ในเมื่อลูกหลานของพวกท่านถามบิดาของเขาทั้งหลายในเวลาต่อไปว่า ‘สำหรับท่านทั้งหลายหินเหล่านี้มีความหมายว่าอย่างไร’

คำเทศนา 11/9/2016



คำเทศนาประจำสัปดาห์วันอาทิตย์ที่ 11กันยายน 2016 
โดย ศิษยาภิบาล  อ.สุนทร  สุขเสาววิมล
ณ คริสตจักรสายธารพระพร

เรื่อง คริสตจักรเป็นเครื่องมือของพระเจ้าที่จะส่งการอวยพรมายังโลกนี้

มธ.16:18 และเราบอกท่านด้วยว่า ท่านคือเปโตร และบนศิลานี้เราจะสร้างคริสตจักรของเราไว้ และประตูแห่งนรกจะมีชัยต่อคริสตจักรนั้นก็หามิได้
กจ.16:5 คริสตจักรทั้งปวงจึงเข้มแข็งในความเชื่อ และจำนวนคนได้ทวีขึ้นทุก ๆ วัน
กจ.20:28 เพราะฉะนั้นท่านทั้งหลายจงระวังตัวให้ดี และจงรักษาฝูงแกะทั้งหมดที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ทรงตั้งท่านไว้ให้เป็นผู้ดูแล และเพื่อจะได้บำรุงเลี้ยงคริสตจักรของพระเจ้า ที่พระองค์ทรงไถ่ด้วยพระโลหิตของพระองค์เอง
1คร.12:27 บัดนี้ฝ่ายท่านทั้งหลายเป็นกายของพระคริสต์ และต่างก็เป็นอวัยวะของพระกายนั้น 28และพระเจ้าได้ทรงโปรดตั้งบางคนไว้ในคริสตจักร คือหนึ่งอัครสาวก สองผู้พยากรณ์ สามครูบาอาจารย์ แล้วต่อจากนั้นก็มีการอัศจรรย์ ของประทานในการรักษาโรค การช่วยเหลือ การครอบครอง การพูดภาษาต่าง ๆ 29ทุกคนเป็นอัครสาวกหรือ ทุกคนเป็นผู้พยากรณ์หรือ ทุกคนเป็นครูบาอาจารย์หรือ ทุกคนกระทำการอัศจรรย์หรือ  30ทุกคนได้รับของประทานให้รักษาโรคหรือ ทุกคนพูดภาษาต่าง ๆ หรือ ทุกคนแปลได้หรือ  31แต่ท่านทั้งหลายจงกระตือรือร้นอย่างจริงจังบรรดาของประทานอันดีที่สุดนั้น และข้าพเจ้ายังคงแสดงทางที่ยอดเยี่ยมกว่าแก่ท่านทั้งหลาย
1คร.13:13 ดังนั้นยังตั้งอยู่สามสิ่ง คือความเชื่อ ความหวังใจ ความรัก แต่ความรักใหญ่ที่สุด
ใช้ของประทานอย่างมีความเข้าใจ มีความสงบ เรียบร้อย ไม่วุ่นวาย
1คร.14:33 เพราะว่าพระเจ้าไม่ใช่ผู้ก่อให้เกิดความสับสนวุ่นวาย แต่ทรงเป็นผู้ก่อให้เกิดสันติสุข เหมือนที่ได้เกิดขึ้นในบรรดาคริสตจักรแห่งวิสุทธิชนนั้น
อฟ.3:9 และทำให้คนทั้งปวงเห็นว่า อะไรคือความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันแห่งความลึกลับ ซึ่งตั้งแต่แรกสร้างโลกทรงปิดบังไว้ที่พระเจ้า ผู้ทรงสร้างสารพัดทั้งปวงโดยพระเยซูคริสต์ 10บัดนี้ทรงประสงค์จะให้เทพผู้ครอบครองอาณาจักรและเทพผู้มีอำนาจในสวรรคสถานรู้จักพระปัญญาอันซับซ้อนของพระเจ้าโดยคริสตจักร
11 ทั้งนี้ก็เป็นไปตามพระประสงค์นิรันดร์ ซึ่งพระองค์ได้ทรงตั้งไว้ในพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา
12 ในพระองค์นั้น เราจึงมีใจกล้า และมีโอกาสที่จะเข้าไปถึงพระองค์ด้วยความมั่นใจเพราะความเชื่อในพระองค์  13เหตุฉะนั้นข้าพเจ้าจึงขอร้องท่านว่า อย่าท้อถอย เพราะความยากลำบากของข้าพเจ้าเพราะเห็นแก่ท่านซึ่งเป็นสง่าราศีของท่านเอง 14เพราะเหตุนี้ ข้าพเจ้าจึงคุกเข่าต่อพระบิดาของพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา 15ครอบครัวทั้งหมดในสวรรค์และแผ่นดินโลกก็ได้ชื่อมาจากพระองค์ 16ขอให้พระองค์ทรงโปรดประทานกำลังเรี่ยวแรงมากฝ่ายจิตใจแก่ท่าน โดยเดชพระวิญญาณของพระองค์ตามความไพบูลย์แห่งสง่าราศีของพระองค์ 17เพื่อพระคริสต์จะทรงสถิตในใจของท่านโดยความเชื่อ เนื่องด้วยว่าท่านมีรากมีพื้นฐานที่ทรงวางไว้อย่างมั่นคงในความรักแล้ว  18ท่านก็จะหยั่งรู้ได้ว่าอะไรคือความกว้าง ความยาว ความลึก และความสูงพร้อมกับบรรดาวิสุทธิชนทั้งปวง  19และให้เข้าใจถึงความรักของพระคริสต์ซึ่งเกินความรู้ เพื่อท่านจะได้รับความไพบูลย์ของพระเจ้าอย่างเต็มเปี่ยม  20บัดนี้ ขอให้พระเกียรติจงมีแด่พระองค์ผู้ทรงฤทธิ์สามารถกระทำสารพัดมากยิ่งกว่าที่เราจะทูลขอหรือคิดได้ ตามฤทธิ์เดชที่ประกอบกิจอยู่ภายในตัวเรา
อฟ.5:23 เพราะว่าสามีเป็นศีรษะของภรรยา เหมือนพระคริสต์ทรงเป็นศีรษะของคริสตจักร และพระองค์ทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของกายนั้น
อฟ.5:26 เพื่อพระองค์จะได้ทรงแยกตั้งไว้ และชำระคริสตจักรนั้นให้บริสุทธิ์โดยการล้างด้วยน้ำโดยพระวจนะ
1ทม.3:1 คำนี้เป็นคำจริง คือว่าถ้าชายคนใดปรารถนาหน้าที่ผู้ดูแล คนนั้นก็ปรารถนากิจการงานที่ประเสริฐ
มธ.5:13 ท่านทั้งหลายเป็นเกลือแห่งแผ่นดินโลก แต่ถ้าเกลือนั้นหมดรสเค็มไปแล้ว แผ่นดินนั้นจะเค็มอย่างไรได้ แต่นั้นไปก็ไม่เป็นประโยชน์อะไร มีแต่จะทิ้งเสียสำหรับคนเหยียบย่ำ 14ท่านทั้งหลายเป็นความสว่างของโลก นครซึ่งอยู่บนภูเขาจะปิดบังไว้ไม่ได้ 15ไม่มีผู้ใดจุดเทียนแล้วนำไปวางไว้ในถัง แต่ย่อมตั้งไว้บนเชิงเทียน จะได้ส่องสว่างแก่ทุกคนที่อยู่ในเรือนนั้น
ยน.10:10 ขโมยนั้นย่อมมาเพื่อจะลักและฆ่าและทำลายเสีย เราได้มาเพื่อเขาทั้งหลายจะได้ชีวิต และจะได้อย่างครบบริบูรณ์  11เราเป็นผู้เลี้ยงที่ดี ผู้เลี้ยงที่ดีนั้นย่อมสละชีวิตของตนเพื่อฝูงแกะ

คำเทศนา 4/9/2016







คำเทศนาประจำสัปดาห์วันอาทิตย์ที่ 4 กันยายน 2016  
โดย ศิษยาภิบาล  อ.สุนทร  สุขเสาววิมล
ณ คริสตจักรสายธารพระพร

เรื่อง  ชีวิตที่เจริญรุ่งเรือง

1.รักพระเจ้าอย่างสุดหัวใจ
มก.12:30 และพวกท่านจงรักองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้เป็นพระเจ้าของท่าน ด้วยสุดจิตสุดใจของท่าน ด้วยสิ้นสุดความคิด และด้วยสิ้นสุดกำลังของท่าน’ นี่เป็นพระบัญญัติที่เป็นเอกเป็นใหญ่ 31 และพระบัญญัติที่สองนั้นก็เป็นเช่นกันคือ ‘จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง’ พระบัญญัติอื่นที่ใหญ่กว่าพระบัญญัติทั้งสองนี้ไม่มี
2ทธ.3:16 พระคัมภีร์ทุกตอนได้รับการดลใจจากพระเจ้า และเป็นประโยชน์ในการสอน การตักเตือนว่ากล่าว การปรับปรุงแก้ไขคนให้ดี การอบรมในเรื่องความชอบธรรม 17เพื่อคนของพระเจ้าจะดีพร้อม พรักพร้อมที่จะกระทำการดีทุกอย่าง
2ทธ.3:12  แท้จริงทุกคนที่ปรารถนาจะดำเนินชีวิตตามทางของพระเจ้าในพระเยซูคริสต์จะถูกกดขี่ข่มเหง 13 แต่คนชั่วและคนเจ้าเล่ห์จะชั่วร้ายมากยิ่งขึ้น ทั้งล่อลวงคนอื่น และก็ถูกคนอื่นล่อลวงด้วย 14แต่ฝ่ายท่านจงดำเนินต่อไปในสิ่งที่ท่านเรียนรู้แล้ว และได้เชื่ออย่างมั่นคง ท่านก็รู้ว่าท่านได้เรียนมาจากผู้ใด

2.รับผิดชอบหน้าที่
นหม.4:17 ผู้ที่ก่อสร้างกำแพง และบรรดาผู้ที่ขนของกับผู้ที่ยกของขึ้น ทุกคนมือหนึ่งทำงาน อีกมือหนึ่งถืออาวุธไว้ 18 ผู้ก่อสร้างทุกคนมีดาบคาดอยู่ที่สีข้างขณะที่เขาสร้าง ชายที่เป่าแตรก็อยู่ข้างข้าพเจ้า 19 ข้าพเจ้าพูดกับขุนนางและเจ้าหน้าที่ทั้งปวงกับคนนอกนั้นว่า “การงานก็ใหญ่โตและกระจายกันไปมาก เพราะเราแยกกันอยู่บนกำแพงห่างจากกัน  20เมื่อท่านทั้งหลายได้ยินเสียงแตรอยู่ตรงไหน จงวิ่งกรูกันไปที่พวกเรา พระเจ้าของเราทั้งหลายจะทรงต่อสู้เพื่อพวกเรา”

ทำหน้าที่ของตนเอง เมื่อเราทำอย่างดีแล้วเราอาจไม่รู้ว่าจะเกิดผลอะไรที่เพิ่มพูนขึ้นตามมาอย่างมากกมาย

3.ทำอย่างเต็มที่แบบมีประสิทธิภาพ
ถ้างานทุกงานเราทำอย่างมีประสิทธิภาพ ชีวิตย่อมประสบความสำเร็จในทุกๆสิ่ง อย่าทำแบบลวกๆ
     3.1 มีความเชื่อมั่นว่าพระเจ้าจะช่วยให้เราทำได้อย่างดี
     3.2 ทำอย่างมีเป้าหมาย
     3.3 ทำเต็มที่แบบมีประสิทธิภาพ
ยชว.14:9 และในวันนั้นโมเสสได้ปฏิญาณว่า ‘แท้จริงแผ่นดินซึ่งเท้าของท่านได้เหยียบย่ำไปนั้นจะตกเป็นมรดกของท่าน และของลูกหลานของท่านสืบไปเป็นนิตย์ เพราะว่าท่านได้ติดตามพระเยโฮวาห์พระเจ้าของข้าพเจ้าอย่างสุดใจ
ลก.10:27 เขาทูลตอบว่า “จงรักองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้เป็นพระเจ้าของเจ้าด้วยสุดจิตสุดใจของเจ้า ด้วยสุดกำลังและสิ้นสุดความคิดของเจ้า และจงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง”
ยรม.29:11 พระเยโฮวาห์ตรัสว่า เพราะเรารู้แผนงานที่เรามีไว้สำหรับเจ้า เป็นแผนงานเพื่อสันติภาพ ไม่ใช่เพื่อความทุกข์ยาก เพื่อจะให้อนาคตตามที่คาดหมายไว้แก่เจ้า 12 แล้วเจ้าจะทูลขอต่อเรา และจะไปอธิษฐานต่อเรา และเราจะฟังเจ้า 13 เจ้าจะแสวงหาเราและพบเราเมื่อเจ้าแสวงหาเราด้วยสิ้นสุดใจของเจ้า
ฉธบ.11:13 และจะเป็นไปอย่างนี้ ถ้าท่านทั้งหลายจะตั้งใจฟังบรรดาบทบัญญัติของข้าพเจ้าอย่างขยันหมั่นเพียร ซึ่งข้าพเจ้าบัญชาพวกท่านไว้ในวันนี้ ให้รักพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทั้งหลายและให้ปรนนิบัติพระองค์ด้วยสุดจิตสุดใจของพวกท่าน
14 ‘เราจะให้ฝนตกบนแผ่นดินของเจ้าทั้งหลายตามฤดูกาล คือฝนต้นฤดูและฝนชุกปลายฤดู เพื่อเจ้าจะได้เก็บพืชผล น้ำองุ่น และน้ำมันของเจ้า 15 และเราจะให้หญ้าในทุ่งนาของเจ้าสำหรับฝูงสัตว์ของเจ้า เพื่อเจ้าจะได้รับประทานและอิ่มหนำ’16 จงเอาใจใส่ตัวของท่านทั้งหลายให้ดี เพื่อจิตใจของท่านทั้งหลายจะไม่ถูกหลอกลวง แล้วพวกท่านจึงหันเหไปและปรนนิบัติพระอื่น ๆ และนมัสการพระเหล่านั้น 
17 และหลังจากนั้นพระเยโฮวาห์ทรงพระพิโรธต่อท่านทั้งหลายยิ่งนัก แล้วพระองค์ทรงปิดฟ้าสวรรค์เพื่อไม่ให้ฝนตก และแผ่นดินนั้นก็ไม่งอกพืชผลของมัน และเกรงว่าท่านทั้งหลายจะพินาศไปอย่างรวดเร็วจากแผ่นดินที่ดี ซึ่งพระเยโฮวาห์ทรงประทานแก่พวกท่านนั้น
2ซมอ.6:14 และดาวิดก็ทรงรำถวายต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์ด้วยสุดกำลังของพระองค์ และดาวิดมีเอโฟดผ้าป่านคาดอยู่ที่พระองค์
1คร.9:24 ท่านไม่รู้หรือว่าคนเหล่านั้นที่วิ่งแข่งกัน ก็วิ่งด้วยกันทุกคน แต่คนที่ได้รับรางวัลมีคนเดียว เหตุฉะนั้นจงวิ่งเพื่อชิงรางวัลให้ได้ 
25 ฝ่ายนักกีฬาทุกคนก็เคร่งครัดในระเบียบทุกอย่าง แล้วเขากระทำอย่างนั้นเพื่อจะได้มงกุฎใบไม้ซึ่งร่วงโรยได้ แต่เรากระทำเพื่อจะได้มงกุฎที่ไม่มีวันร่วงโรยเลย 26 ดังนั้นส่วนข้าพเจ้าวิ่งแข่งอย่างนี้โดยมีเป้าหมาย ข้าพเจ้าได้ต่อสู้อย่างนี้ ไม่ใช่อย่างนักมวยที่ชกลม